หุ้นโตขึ้นขณะไบเดนจ่อนั่งเกาอี้, ความคืบหน้าวัคซีนผลักดันความมั่นใจ

หุ้นเอเชียไต่ขึ้นในวันอังคารเนื่องจากข่าวไบเดนเริ่มรับการส่งมอบอำนาจได้


สารบัญข่าว

หุ้นเอเชียไต่ขึ้นในวันอังคารเนื่องจากข่าวไบเดนเริ่มรับการส่งมอบอำนาจได้

วอชิงตัน/ฮ่องกง (รอยเตอร์) — หุ้นเอเชียไต่ขึ้นในวันอังคารเนื่องจากข่าวว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้รับมอบหมายให้เริ่มการเปลี่ยนผ่านไปสู่ทำเนียบขาว ได้เพิ่มอารมณ์ที่สดใสขึ้นอยู่แล้วจากความคืบหน้าของวัคซีนโควิด-19และแนวโน้มในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกอย่างรวดเร็ว

เอมิลี เมอร์ฟี หัวหน้าฝ่ายบริหารบริการทั่วไปแห่งสหรัฐอเมริกาได้เขียนจดหมายถึงนายไบเดนเมื่อวันจันทร์ว่าเขาสามารถเริ่มกระบวนการส่งมอบได้แล้วอย่างเป็นทางการ

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความว่า เขาได้บอกกับทีมของเขาแล้วว่า “ให้ทำในสิ่งที่ต้องทำโดยให้คำนึงถึงระเบียบการเบื้องต้น” เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเขากำลังก้าวไปสู่การส่งมอบอำนาจภายหลังจากหลายสัปดาห์แห่งความท้าทายทางกฎหมายต่อผลการเลือกตั้ง

หุ้นสหรัฐฯเองยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมหลังมีรายงานว่า ไบเดนมีแผนที่จะเสนอชื่อ เจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯเพื่อนั่งเก้าอี้กระทรวงการคลังคนต่อไป ดัชนีล่วงหน้าสำหรับ S&P 500 ขยับขึ้น 0.48% ในการซื้อขายช่วงต้นของเอเชีย

ฉากหลังที่สดใสได้ช่วยให้ดัชนีหุ้นฝั่งเอเชียแปซิฟิกที่กว้างที่สุดนอกชายฝั่งญี่ปุ่นของ MSCI ได้ขยับขึ้น 0.15% ขณะที่ S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียสูงขึ้น 1.1% แตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน โดยมีหุ้นภาคพลังงานเป็นผู้นำ

ดเนดัชนีนิคเคอิของญี่ปุ่นโดดขึ้นถึง 2.48% ขณะที่ Kospi ของเกาหลีใต้ขยับขึ้น 0.74%

อย่างไรก็ตาม ดัชนีบลูชิพของจีนและดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงเคลื่อนที่สวนกระแส โดยปรับตัวลง 0.75% และ 0.08% ตามลำดับ

ความคืบหน้าของวัคซีนโควิด-19 ซึ่งได้ช่วยหนุนวอลล์สตรีทในชั่วข้ามคืน ช่วยให้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ลอยตัวสูงขึ้นในขณะที่ช่วยเพิ่มทัศนคติในแง่ดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจโลก

AstraZeneca กล่าวว่าวัคซีนโควิด-19 ของทางบริษัท ซึ่งใช้ต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า, แจกจ่ายได้ง่ายกว่า และขยายขนาดได้รวดเร็วกว่าบรรดาคู่แข่ง อาจมีประสิทธิภาพถึง 90%

“นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในข่าววัคซีน เนื่องจากการสิ้นสุดของการระบาดกลายเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ ข้อมูลล่าสุดของสหรัฐฯได้คืนความมั่นใจเล็กน้อยว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโต แม้จะมีการติดเชื้อโควิด-19เพิ่มขึ้น และความเจ็บปวดที่ยังขาดมาตรการกระตุ้นทางการคลังอยู่” ไคล์ รอดดา นักวิเคราะห์ตลาดจาก IG Australia กล่าว
“และข่าวการเสนอชื่อของเยลเลนให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯอาจทำให้จ้าวนกพิราบตัวนี้ที่เป็นมิตรกับธนาคารกลางเป็นผู้กุมบังเหียนนโยบายการคลัง”

ด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯได้แตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน หลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้น 0.214% โดยที่ค่าเงินยูโรไม่มีการเปลี่ยนแปลง ที่ 1.184 ดอลลาร์

ในวอลล์สตรีท ดัชนี Dow Jones Industrial Average พุ่งขึ้น 1.12% ในชั่วข้ามคืน ด้าน S&P 500 ขยับขึ้น 0.56% ขณะที่ Nasdaq Composite ขยับขึ้นเล็กน้อยที่ 0.22% มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าเนื่องจากนักลงทุนพากันหมุนเวียนออกจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ

นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าจะมีความเสี่ยงระยะสั้นครั้งใหญ่ก่อนวันหยุดขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ แต่รายอื่น ๆ กล่าวว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในช่วงต้นสัปดาห์การซื่อขายที่สั้นลงช่วยให้นักลงทุนมุ่งเน้นไปที่ผลบวกที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงินมากกว่า

ราคาน้ำมันยังขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากผู้ค้าคาดว่าข่าววัคซีนจะกระตุ้นการฟื้นตัวของความต้องการพลังงานเชื้อเพลิงในตลาด

“นักลงทุนกำลังมองข้ามอุปสรรคมากมายในระยะสั้น หนึ่งในนั้นก็คือจำนวนการติดเชื้อโควิด-19ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น แต่พวกเขาเลือกที่จะมองไปถึงช่วงฤดูร้อนในปีหน้าแทน” สตีเฟ่น เบรนนอค นักวิเคราะห์จาก PVM กล่าว

ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐอเมริกาพุ่งทะลุ 255,000 รายแล้ว และยอดผู้ติดเชื้อก็ทะลุ 12 ล้านรายแล้วเช่นกันนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด โดยมีการติดเชื้อรายวันสูงเป็นประวัติการณ์ใกล้ 170,000 ราย และผู้เสียชีวิตต่อวันราว 1,500 ราย

น้ำมันดิบสหรัฐฯเคลื่อนตัวขึ้น 0.14% ที่ 43.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนท์ที่ 46.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.09% ในวันอังคาร ในขณะที่ดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 0.8684%

ด้านราคาทองคำโลกตกลงไปที่ 1,827.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำสหรัฐฯล่วงหน้าปรับตัวลง 0.46% ลงไปที่ 1,829.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อ้างอิง

XM

Reporting by Katanga Johnson and Julie Zhu; Editing by Sam Holmes & Shri Navaratnam

ความเห็นผู้ชมทั่วไป