นักปลุกระดมของทรัมป์รวบรวมฝูงชนผู้ศรัทธาไปสู่อาคารรัฐสภาอย่างไร

(รอยเตอร์) — หลายสัปดาห์ก่อนที่กลุ่มม็อบจะปิดล้อมอาคารรัฐสภาในวอชิงตัน มีรถบัสสีแดงสดแล่นไปทั่วสหรัฐอเมริกาประดับด้วยรูปประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขนาดใหญ่ในชุดสูทและชูกำปั้นไว้เหนือไหล่ของเขา

ที่จุดจอดรถกว่า 25 จุด — ในลานจอดรถและลานจอดเครื่องบินในรัฐต่าง ๆ เช่น แอริโซนา, จอร์เจีย, หลุยเซียนา, เคนตักกี้ และเทนเนสซี — เอมี่ เครเมอร์ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ผันตัวเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และวิทยากรคนอื่น ๆ ปลุกระดมฝูงชนให้เข้าร่วมกับเธอและคนอื่น ๆ ในวอชิงตันเพื่อต่อสู้เพื่อทรัมป์และพลิกการเลือกตั้ง

เมื่อวันพุธที่แล้ว ทัวร์ดังกล่าวได้มาถึงจุดหมายปลายทางสุดท้าย นั่นก็คือ วอชิงตัน ดี.ซี. และเครเมอร์ก็ขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุม “March for Trump” ที่เธอจัดมาหลายสัปดาห์แล้ว

“มันขึ้นอยู่กับคุณและฉันแล้วที่จะช่วยสาธารณรัฐนี้ไว้” เครเมอร์กล่าวกับผู้รักชาติในสไตล์ตนเองหลายพันคนในสวนสาธารณะ Ellipse ทางใต้ของทำเนียบขาวในหนึ่งในหลากหลายสุนทรพจน์อุ่นเครื่องสำหรับทรัมป์ “เราจะไม่ถอยกลับไปใช่ไหม? จงสู้ต่อไป!”

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่นำไปสู่การจลาจลร้ายแรงที่ Capitol Hill ในวันพุธ เครเมอร์และกลุ่มพันธมิตรและผู้ให้การสนับสนุนอย่างหลวม ๆ ได้รวบรวมผู้ศรัทธา รับสมัครผู้สนับสนุนทรัมป์หัวรุนแรงทั่วสหรัฐอเมริกาในความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะล้มล้างการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากทฤษฎีสมคบคิดต่าง ๆ และนำไปสู่การปฏิบัติด้วยการเรียกร้องอย่างสิ้นหวังของทรัมป์เพื่อ “กอบกู้” ประชาธิปไตยด้วยการพลิกความพ่ายแพ้ต่อ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต

เรื่องราวของวิธีการที่นักปลุกระดมของทรัมป์เกณฑ์ผู้สนับสนุนแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการที่น่าทึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งของทรัมป์ในเครือข่ายกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพและได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างดี ฝูงชนที่ผู้จัดงานชุมนุมเกณฑ์เข้ามาได้เข้าร่วมในวอชิงตันโดยกลุ่มฝ่ายขวาที่รุนแรง ซึ่งได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการประท้วงของทรัมป์ — รวมถึงนักนิยมความสูงสุดของคนขาวและผู้ที่ชื่นชอบทฤษฎีสมคบคิด QAnon ซึ่งหล่อหลอมให้ทรัมป์เป็นผู้กอบกู้ และสมาชิกพรรคเดโมแครตชั้นนำเป็นพวกเฒ่าหัวงูและมนุษย์กินคนที่บูชาซาตาน

คนอื่น ๆ ในบรรดาผู้สนับสนุนที่หลากหลายในการประท้วงหลังการเลือกตั้งของทรัมป์ รวมไปถึงเจ้าสัวผู้ผลิตหมอน, องค์กรของนักศึกษาวิทยาลัยฝ่ายขวา, เครือข่ายนักเคลื่อนไหวที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในชื่อ Stop the Steal และกลุ่มกระจายเสียงที่จัดตั้งโดยพ่อบ้านคนหนึ่งซึ่งอุทิศตัวเองให้กับการชุมนุมของทรัมป์ ตามการตรวจสอบบันทึกการเปิดเผยข้อมูลของรอยเตอร์และการสัมภาษณ์ผู้จัดงานประท้วง

ทั้งเครเมอร์และ Women for America First ไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็น องค์กรดังกล่าวโพสต์แถลงการณ์บนเว็บไซต์โดยระบุว่าเสียใจและผิดหวังในความรุนแรงอาคารรัฐสภา ซึ่งทางองค์กรระบุว่า “มีการยุยงโดยนักแสดงห่วย ๆ ไม่กี่คน”

ประมาณสองชั่วโมงหลังจากคำปราศรัยของเครเมอร์ ทรัมป์ได้ขึ้นเวทีชุมนุมเดียวกันและปลุกระดมกลุ่มผู้สนับสนุนที่หูเบาซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ “ต่อสู้” — โดยใช้คำนี้มากกว่า 20 ครั้ง — และ “จะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว” เขาได้เยาะเย้ยพรรครีพับลิกันว่า “อ่อนแอ” และ “น่าสมเพช” และบอกกับฝูงชนว่าพวกเขาต้อง “เข้มแข็ง” ก่อนที่จะส่งพวก “ผู้รักชาติ” ออกไปเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภา

หลายคนในฝูงชนจำนวนหลายพันคนได้ต่อสู้กับตำรวจรัฐสภาด้วยอาวุธที่มากกว่าวาทศิลป์อันร้อนแรง โดยต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธทำมือซึ่งรวมไปถึงท่อโลหะ, เสาไม้ที่มีตะปูฝัง, ไม้เบสบอลอะลูมิเนียม, ไม้ฮ็อกกี้, บานประตูไม้ที่ฉีกออกจากบานพับ และโต๊ะกาแฟ อ้างอิงจากช่างภาพของรอยเตอร์ในที่เกิดเหตุและวิดีโออื่น ๆ ที่โพสต์ทางออนไลน์ ผู้โบกธงชาติอเมริกันคนทุบเจ้าหน้าที่คนหนึ่งซ้ำ ๆ ด้วยเสาธงดังกล่าวขณะที่ผู้ก่อจลาจลคนอื่นลากตำรวจนายนั้นออกจากอาคารและลงบันไดด้านนอกอาคาร

“พวกเราประชาชนจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว!” ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนผ่านเขากระทิง ขณะที่ผู้ก่อการจลาจลปีนผ่านหน้าต่างที่แตกทางด้านตะวันตกของอาคารรัฐสภา วิดีโอที่โพสต์ออนไลน์แสดงให้เห็น “พวกแกเอาหมีทรัมปี้ของเราไปไม่ได้หรอก พวกแกจะเอาคะแนนเสียงและเสรีภาพของเราไปไม่ได้”

มีผู้เสียชีวิต 5 รายเนื่องจากความรุนแรงที่อาคารรัฐสภา รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งและผู้ประท้วงที่ถูกตำรวจยิง ความรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก 2 เดือนของความโกรธที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ภักดีของทรัมป์ ซึ่งถูกควบคุมโดยผู้จัดงานประท้วง รวมถึงเครเมอร์และคนอื่น ๆ อีกมากมาย เรื่องเล่าเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ถูกขโมย – ซึ่งมีการขยายความโดยสื่อฝ่ายขวา – กลายเป็นข่าวประเสริฐสำหรับผู้ภักดีของทรัมป์หลายล้านคนอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีความล้มเหลวในการฟ้องร้องหลายสิบคดีที่ทนายความของเขายื่นฟ้องโดยอ้างว่ามีการทุจริตการเลือกตั้ง

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่าการชุมนุมจัดขึ้นโดยกลุ่มภายนอก และทำเนียบขาวเริ่มกลายมามีส่วนร่วมขึ้นเมื่อประธานาธิบดีตัดสินใจที่จะขึ้นปราศรัยที่นั่น โดยเจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธความคิดเห็นเพิ่มเติม

ผู้มีบทบาทและนักการเงินที่สำคัญอีกคนหนึ่งของขบวนการประท้วงหลังการเลือกตั้งคือ ไมค์ ลินเดลล์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท My Pillow ซึ่งมีโฆษณาและความเห็นทางการเมืองเป็นที่จับจ้องของสื่ออนุรักษ์นิยม นายลินเดลล์ – อดีตผู้ติดโคเคนและแอลกอฮอล์กล่าวว่าเขาพบความมีสติผ่านศาสนาคริสต์ – ได้ช่วยสนับสนุนการเดินขบวนทัวร์รถบัส 2 สัปดาห์ของทรัมป์ซึ่งสิ้นสุดในวอชิงตันเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม และได้ปราศรัยที่ 5 จุดจอดรถ

My Pillow เป็นผู้โฆษณารายใหญ่และผู้สนับสนุนเครือข่ายกระจายเสียง Right Side Broadcasting Network กลุ่มสื่ออนุรักษ์นิยมที่ไปร่วมทัวร์เพื่อให้ข่าวรายวัน

นายลินเดลล์กล่าวว่าการสนับสนุนทางการเงินของเขาสำหรับทัวร์รถบัสได้สิ้นสุดลงในกลางเดือนธันวาคม เขาได้ย้ำกับรอยเตอร์ว่าเขาไม่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนการเดินทางในครั้งต่อ ๆ มาเพื่อส่งเสริมการชุมนุมในวันที่ 6 มกราคมที่ได้ก่อให้เกิดการจลาจล อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าเขาได้เข้าร่วมการชุมนุมก่อนการเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภาในวันนั้น และเขาได้ขึ้นปราศรัยเมื่อวันก่อนหน้าในระหว่างการชุมนุมที่ Freedom Plaza ใกล้กับทำเนียบขาว

การจลาจลที่อาคารรัฐสภาไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของลินเดลล์เกี่ยวกับการโต้แย้งผลการเลือกตั้ง “ผมจะไม่ปล่อยให้การฉ้อโกงนี้ลอยนวล” เขาบอกกับรอยเตอร์ “มันเป็นการเลือกตั้งที่ทุจริตที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา และอาจจะเป็นที่สุดในประวัติศาสตร์โลกด้วย” (คริสโตเฟอร์ เคร็บส์ หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยทางไซเบอร์ของรัฐบาลทรัมป์ เรียกการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าเป็นการเลือกตั้งมีความปลอดภัยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ หลังจากการลงคะแนนเพียงไม่นาน และทรัมป์ไล่เขาออกจากตำแหน่ง)

จากนั้นนายลินเดลล์ได้อ้างถึงทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่มีมูลความจริงล่าสุดที่เผยแพร่ในกลุ่มฝ่ายขวาว่า – นักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายซึ่งปลอมตัวเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์เป็นสาเหตุของความรุนแรงที่อาคารรัฐสภา

“มันเป็นการจัดฉาก” เขากล่าว

รถบัสแดง

หลายสัปดาห์หลังการเลือก ตั้งองค์กรของเครเมอร์ได้เคลื่อนพลรถบัสทรัมป์สีแดงคันใหญ่ - ซึ่งประดับด้วยโลโก้ My Pillow และผู้สนับสนุนอื่น ๆ – เพื่อรวบรวมผู้สนับสนุนให้มารวมตัวกันในวอชิงตันและโต้แย้งกับผลการลงคะแนน ตามจุดจอดรถ ผู้พูดได้ผสมความเร่าร้อนทางศาสนาและชาตินิยมเข้ากับการเรียกร้องความไม่สงบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยลินเดลล์ได้ขึ้นปราศัยใน 5 จุด

การชุมนุมในวันที่ 3 มกราคมในแฟรงคลินรัฐเทนเนสซีซึ่งเป็นจุดจอดรถทัวร์ มีการนำเสนอโดยศิษยาภิบาล เกร็ก ล็อค แห่ง Global Vision Bible Church ผู้ปลุกระดมซึ่งต่อต้านข้อจำกัดที่เกี่ยวกับการระบาดของโรคในการให้บริการของคริสตจักร เขายกย่องขบวนการบูกาลู — เครือข่ายหัวรุนแรงต่อต้านรัฐบาลอย่างหลวม ๆ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปลุกระดมสงครามกลางเมืองครั้งใหม่ — ในการทำงานของพระเจ้าด้วยการต่อสู้กับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งของทรัมป์

“พวกเขายืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และพระเจ้าทรงส่งเสริมพวกเขา” เขากล่าว

ล็อคบอกกับฝูงชนว่าอย่ายอมแพ้ในการต่อสู้เพื่อวาระที่สองของทรัมป์ “เราจะไม่ร่นถอย, เก็บข้าวของ, หรือหุบปากจนกว่าเราจะได้ถูกนำขึ้นโดยพระสิริของพระเจ้า”

โดยล็อคไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็นใดใด

ข่าวการชุมนุมมีการสืบข่าวตั้งแต่ต้นจนจบโดยเครือข่ายกระจายเสียง Right Side Broadcasting Network — บริษัทสื่อฝ่ายขวาที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับทรัมป์ องค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดย โจ ซีลส์ พ่อบ้านคนหนึ่งซึ่งคิดว่าการชุมนุมของทรัมป์ไม่ได้รับการสืบข่าวอย่างเพียงพอ เขาได้คัดเลือกผู้สื่อข่าวอิสระคนหนึ่งเพื่อสืบข่าวการปรากฏตัวของทรัมป์และโพสต์วิดีโอดิบลงใน YouTube ด้วยความประหลาดใจของเขา เขาพบว่ามีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นหลายพันคน จากนั้นก็ถึงหนึ่งล้านคน นายซีลส์บอกกับองค์กรสื่อต่าง ๆ เครือข่ายดังกล่าวกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดเสียงของฝ่ายขวา และพุ่งเข้าสู่กระแสหลักเมื่อฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้อนุญาตให้ทีมของนายซีลส์เข้าถึงห้องแถลงข่าวของทำเนียบขาวได้

ในขณะนี้มีพนักงาน 24 คน และสำนักงานในออเบิร์น รัฐอะลาบามา เครือข่ายได้อุทิศความสำคัญให้กับการรายงานข่าวหลังการเลือกตั้งส่วนใหญ่ให้กับข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยไร้หลักฐานยืนยัน ผู้สื่อข่าวได้กล่าวถึงการเป็นพันธมิตรกับทัวร์ของเครเมอร์ และยกย่องลินเดลล์สำหรับการสนับสนุนเครือข่าย

“My Pillow เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักสำหรับทัวร์รถบัส Women for America First และเขาเป็นหุ้นส่วนของเราในวันนี้” ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งกล่าวระหว่างรายงานที่จุดจอดรถบัสในวันที่ 2 มกราคม ในลิตเติลร็อค รัฐอาร์คันซอ

ไม่สามารถติดต่อนายซีลส์ ผู้ก่อตั้ง Right Side เพื่อแสดงความคิดเห็นได้

การประท้วงอย่างดุเดือด!

การชุมนุมเมื่อวันที่ 6 มกราคมก่อนหน้าการจลาจลที่รัฐสภาได้รับการส่งเสริมอย่างขันแข็งจากทรัมป์และผู้ภักดีของเขา

“เจอกันที่นั่น มันจะดุเดือด!” ประธานาธิบดีทวีตเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายทวีตที่กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

ผู้สนับสนุนอีกรายของการชุมนุมวันที่ 6 มกราคมคือ Turning Point Action ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการทางการเมืองของ Turning Point USA กลุ่มฝ่ายขวาของมหาวิทยาลัย นำโดยนักเคลื่อนไหวชื่อ ชาร์ลี เคิร์ก โดยแอนดรูว์ โคลเว็ต โฆษกของ Turning Point กล่าวว่าองค์กรได้เพิ่มชื่อในงานชุมนุมหลังวันคริสต์มาส ตามคำร้องขอของ Women for America First “เราไม่ได้จัดงานนั้น เราสนับสนุนแค่เพียงที่เราช่วยให้นักเรียนมาเข้าร่วมการชุมนุม ไม่เกี่ยวกับการเดินขบวน” โคลเว็ตกล่าว

Turning Point Action ได้ส่งรถบัสจำนวน 7 คันโดยบรรทุกนักเรียน 350 คนเข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 6 มกราคม โคลเว็ตกล่าว และเขากล่าวอีกว่า องค์กรนี้ “ประณามความรุนแรงทางการเมือง”

อีกกลุ่มหนึ่งที่เข้าร่วมกับ Women for America First เพื่อสนับสนุนการประท้วงคือ Stop the Steal เครือข่ายนักเคลื่อนไหวที่รวมตัวกันในทันทีที่ประธานาธิบดีทรัมป์พ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง เพื่อจัดการชุมนุมทั่วประเทศในการต่อต้านชัยชนะของไบเดน

Women for America First ได้นำ Stop the Steal เข้ามาในฐานะผู้สนับสนุน อเล็กซ์ บรูซวิตส์ นักเคลื่อนไหวอนุรักษ์นิยมที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน Stop the Steal กล่าว Stop the Steal ได้จัดตั้งเว็บไซต์ที่เรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็น “การประท้วงที่ดุเดือด” ซึ่งเป็นการอ้างถึงทวีตของทรัมป์ บรูซวิตส์ กล่าว

เมื่อฝูงชนมุ่งหน้าไปยังอาคารรัฐสภาก่อนที่ทรัมป์จะพูดจบในวันพุธ บรูซวิตส์กล่าวว่าเขาตัดสินใจว่าเหตุการณ์นี้วุ่นวายและไม่ได้เข้าร่วมการเดินขบวน

“ผมรู้สึกขวัญเสีย” บรูซวิตส์กล่าวในภายหลังการโจมตีอาคารรัฐสภา “ไม่มีใครต้องการให้มันมาถึงจุดนี้”

อาลี อเล็กซานเดอร์ ผู้นำในการเคลื่อนไหว Stop the Steal ได้เผยแพร่วาทศิลป์ที่รุนแรงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดเหตุจลาจล ในคืนวันอาทิตย์ ในวิดีโอใหม่ทางอินเทอร์เน็ตเขากล่าวคำปฏิญาณว่า “เราจะลงโทษพวกคนทรยศ” โดยพาดพิงถึงนักการเมืองพรรครีพับลิกันที่ได้รับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของนายไบเดน “พระเจ้าตรัสว่าการแก้แค้นเป็นของพระองค์ และผมขออธิษฐานว่าผมเป็นเครื่องมือที่จะแทงไอ้พวกเวรตะไลนี้”

นายอเล็กซานเดอร์ไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็น

หลังจากเหตุการณ์จลาจล เว็บไซต์หลายแห่งที่โปรโมตการเดินขบวน — รวมถึง “Wild Protest” และ“ March to Save America” — ได้ปิดตัวไป แต่บรรดาผู้นำของกลุ่มที่ส่งเสริมการชุมนุมในวันที่ 6 มกราคมไม่ได้แสดงอาการยอมรับว่าทรัมป์แพ้การเลือกตั้งจริง ๆ

“โจ ไบเดน จะไม่มีวันเป็นประธานาธิบดีของเรา” เอมี เครเมอร์ แห่ง Women for America First ทวีตเมื่อวันเสาร์

อ้างอิง

รอยเตอร์

Reporting by Joseph Tanfani, Michael Berens and Ned Parker; additional reporting by Andrea Januta; editing by Jason Szep and Brian Thevenot.