วิธีการใหม่สำหรับ 3 ดัชนีที่จะเริ่มใช้ในเดือนกรกฎาคม

ตลท. มีแผนจะนำมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมาใช้ในวิธีการคำนวณสำหรับดัชนี SET50, SET100 และ SETHD


สารบัญข่าว

ตลท. มีแผนจะนำมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมาใช้ในวิธีการคำนวณสำหรับดัชนี SET50, SET100 และ SETHD

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีแผนที่จะนำมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ปรับปรุงแล้วโดยอิสระมาใช้ในวิธีการคำนวณสำหรับดัชนี SET50, SET100 และ SETHD โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เนื่องจากมุ่งมั่นที่จะป้องกันการเก็งกำไรในหุ้นลอยตัวต่ำ

วิธีการใหม่นี้มีกำหนดจะนำไปใช้กับดัชนีหลัก 3 ตัวก่อนที่จะขยายไปสู่ดัชนีอื่น ๆ ในปีหน้า

การแทนที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเต็มรูปแบบด้วยวิธีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ปรับปรุงโดยอิสระในการคำนวณดัชนีควรสะท้อนสภาพตลาดในแง่ของสภาพคล่องได้ดีขึ้น และมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันการเก็งกำไรในหุ้นลอยตัวต่ำอย่างที่เกิดขึ้นกับ Delta Electronics (DELTA) เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้ดัชนี SET ผันผวนเป็นวงกว้าง

ภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยรองประธาน บล. เอเซียพลัส (ASPS) กล่าวว่า หุ้นที่มีอัตราส่วนหุ้นลอยตัวสูงจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นตามการใช้วิธีการใหม่ ASPS ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกสิกรไทย (KBANK)

ในขณะเดียวกันหุ้นที่มีการลอยตัวต่ำจะลดน้ำหนักตามไปด้วย เช่น ท่าอากาศยานไทย (AOT), Delta Electronics (DELTA) และ PTT Oil and Retail Business (OR)

นายภราดรกล่าวอีกว่า หุ้นใหม่บางส่วนจะถูกเพิ่มเข้าในดัชนี SET50 หลังจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในขณะที่หุ้นอื่น ๆ จะถูกถอนออก เนื่องจากน้ำหนักที่ปรับแล้วจะไม่เข้าเกณฑ์การคัดเลือก

ASPS คาดว่าบ้านปู (BANPU), ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP), KCE Electronics (KCE), Sri Trang Argo-Industry (STA) และ IRPC (IRPC) จะได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ SET50 หลังจากการคำนวณใหม่มีผลบังคับใช้อีกครั้ง

ขณะเดียวกัน หุ้นที่มีแนวโน้มจะออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ VGI (VGI), TOA Paint (Thailand) (TOA), สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL), โทเทิ่ลแอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น (DTAC) และ COM7 (COM7)

เขากล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงในการคำนวณน้ำหนักดัชนีจะส่งผลกระทบต่อ 31% ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 17 ล้านล้านบาท น้ำหนักของหุ้นอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับระดับของหุ้นที่มีการซื้อขายลอยตัว

หลังจากการปรับตัวราคาหุ้นที่ขึ้นหรือลดน้ำหนักจะมีความผันผวนสูง นายภราดรกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนดังกล่าว ตลท. มีแผนจะปรับหุ้นจดทะเบียนเพียง 50% ในวันที่ 1 กรกฎาคม โดยขยับไปอีกครึ่งหนึ่งในช่วงสิ้นปี

เขากล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลกระทบต่อกองทุนแฝงในประเทศ ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารทุนที่มีนโยบายปรับน้ำหนักหุ้นตามดัชนีตลาด เนื่องจากจะมีการถ่วงน้ำหนักใหม่เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ใหม่

คาดว่ากองทุนเหล่านี้จะปรับพอร์ตการลงทุนในสิ้นเดือนมิถุนายนก่อนวันดำเนินการ นายภราดรกล่าว

นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันบางรายคาดว่าจะเก็งกำไรในหุ้นที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ได้กำไรหรือขาดทุนตามวิธีการใหม่โดยมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรระยะสั้นก่อนที่กองทุนแบบพาสซีฟจะปรับพอร์ตการลงทุน เขากล่าว

“การปรับเปลี่ยนการคำนวณจะทำให้ดัชนีมีความผันผวนน้อยลง เพราะใคร ๆ ก็จะเก็งกำไรหุ้นลอยตัวต่ำ เพื่อปรับดัชนีได้ยากขึ้น วิธีการใหม่นี้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้วย” นายภราดรกล่าว

อ้างอิง

บางกอกโพสต์

Writer: Nuntawun Polkuamdee

ความเห็นผู้ชมทั่วไป