ศาลฎีกาสหรัฐฯไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการแทรกแซงการเลือกตั้งปธน. แม้ว่าทรัมป์จะขู่อย่างไรก็ตาม

ทรัมป์ร้องศาลฎีกาให้แทรกแซงการเลือกตั้ง


สารบัญข่าว

ทรัมป์ร้องศาลฎีกาให้แทรกแซงการเลือกตั้ง

ศาลฎีกาสหรัฐฯไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการแทรกแซงการเลือกตั้งปธน. แม้ว่าทรัมป์จะขู่อย่างไรก็ตาม

วอชิงตัน (รอยเตอร์) — ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้ศาลฎีกาแห่งสหรัฐฯเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ศาลอาจไม่ใช่ผู้ชี้ขาดในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าว

พวกเขาระบุว่ามันไม่เป็นที่แน่ใจว่าศาลจะทำตามคำสั่งของทรัมป์ในการยับยั้งการนับบัตรลงคะแนนเสียงที่เข้ามาทั้งก่อนและในวันเลือกตั้ง หรือข้อพิพาทใด ๆ ที่ศาลจะตัดสินจะสามารถเปลี่ยนแปลงทิศทางของการแข่งขันครั้งนี้ในรัฐที่มีคะแนนเสียงไล่เลี่ยกันอย่างรัฐมิชิแกนและรัฐเพนซิลเวเนียได้

โดยยังคงมีการนับบัตรลงคะแนนเสียงในหลาย ๆ รัฐในช่วงเช้าตรู่ของวันพุธ และทรัมป์ได้ปรากฏตัวในทำเนียบขาวและได้ประกาศอย่างเป็นเท็จว่าเขาได้รับชัยชนะเหนือโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครตแล้ว

ทรัมป์ได้คัดค้านการลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ตลอดช่วงระยะเวลาหาเสียงเลือกตั้ง โดยได้กล่าวอ้างโดยไม่มีการเสนอหลักฐานว่าการลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์จะนำไปสู่การฉ้อโกง ซึ่งเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากมากในการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เขากล่าวว่า

“นี่เป็นการฉ้อโกงครั้งใหญ่ต่อประเทศชาติ เราต้องการให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายในลักษณะที่สมควร ดังนั้นเราจะไปที่ศาลฎีกาแห่งสหรัฐฯ เราต้องการให้การลงคะแนนเสียงทั้งหมดยุติลง”

โดยทรัมป์ไม่ได้เสนอหลักฐานใดใดที่เป็นการสนับสนุนข้อกล่าวหาในฐานฉ้อโกงของเขา และไม่ได้ให้รายละเอียดใดใดว่าเขาจะดำเนินคดีอย่างไรในชั้นศาล ต่อมาในวันเดียวกันเขาได้เข้ายื่นคำร้องให้เข้าแทรกแซงคดีที่กำลังรอดำเนินการอยู่ในชั้นศาลฎีกา ในความพยายามที่จะปิดกั้นบัตรลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ที่มาถึงล่าช้าในรัฐเพนซิลเวเนีย

ทีมหาเสียงเลือกตั้งของทรัมป์และผู้แทนฯพรรครีพับลิกันคนอื่น ๆ ได้เข้าร้องเรียนต่อศาลในรัฐอื่น ๆ รวมไปถึงมีการพยายามที่จะให้หยุดนับบัตรลงคะแนนเสียงในรัฐมิชิแกน

ในช่วงค่ำของวันพุธ การเลือกตั้งครั้งนี้ยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย โดยมีรัฐเพียงไม่กี่รัฐที่ซึ่งมีการแก่งแย่งแข่งขันกันอย่างสูสีที่อาจเป็นตัวตัดสินผลการเลือกตั้งได้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงหรืออีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้แล้ว ขณะที่มีบัตรลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์จำนวนมากที่ได้ถูกส่งมาท่ามกลางการระบาดของโคโรนาไวรัสได้ทำให้กระบวนการนับคะแนนมีความยืดเยื้อ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่า ขณะที่อาจมีการคัดค้านบัตรลงคะแนนเสียง หรือกระบวนการในการลงคะแนนเสียงและนับคะแนนเสียงอยู่ แต่มันไม่ชัดเจนว่าข้อพิพาทดังกล่าวจะสามารถตัดสินผลการเลือกตั้งได้

เน็ด โฟลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเลือกตั้งจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งปัจจุบันนี้ไม่ได้มีส่วนประกอบที่จะสร้างสถาณการณ์เช่นเดียวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2000 ได้ อย่างในตอนที่ศาลฎีกายุติการนับคะแนนใหม่ตามคำร้องของนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่มีต่อนายอัล กอร์ จากพรรคเดโมแครต

“มันยังเร็วไปมาก แต่ในขณะนี้มันดูไม่ค่อยชัดเจนว่าเหตุการณ์นี้มันจะจบลงในแบบที่ศาลฎีกาจะชี้ขาดได้” นายโฟลีย์กล่าว

ทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตได้รวบรวมกองทัพนักกฎหมายในการเตรียมพร้อมที่จะโต้แย้งกันในการแข่งขันอันสูสีนี้ โดยทีมของนายไบเดนประกอบไปด้วย มาร์ค เอเลียส นักกฎหมายการเลือกตั้งชั้นแนวหน้าจากบริษัท Perkins Coie และอดีตทนายความทั่วไป โดนัลด์ เวอร์ริลลิ กับ วอลเตอร์ เดลลิงเจอร์ ด้านนักกฎหมายของทรัมป์ประกอบไปด้วย แมต มอร์แกน ที่ปรึกษาทั่วไปด้านการรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดี ทนายความศาลฎีกา วิลเลียม คอนโซวอย และจัสติน คลาร์กที่ปรึกษาอาวุโสด้านการรณรงค์หาเสียง

ในวันพุธ เจนนา เอลลิส อัยการของทรัมป์ได้รับว่าความให้กับคำร้องของทรัมป์ในการคัดค้านการนับคะแนนเสียงและได้ประเมินตัวเลือกทางกฎหมายของเขา

“เราจะต้องก้าวผ่านความท้าทายทางกฎหมายเหล่านี้ไปให้ได้, ใช่ว่ามันจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” เอลลิสบอกกับทาง Fox Business Network ในการสัมภาษณ์ “เขาต้องการทำให้แน่ใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่ถูกขโมยไป”

คดีที่ใกล้จะได้คำตัดสินของศาลฎีกาที่สุดคือคดีข้อพิพาทในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งพรรครีพับลิกันได้ยื่นคัดค้านคำตัดสินเมื่อเดือนกันยายนของศาลสูงสุดแห่งรัฐเพนซิลเวเนียที่อนุญาตให้บัตรลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ที่ได้ประทับตราไปรษณีย์ภายในวันเลือกตั้งและได้รับภายใน 3 วันต่อมามีสิทธิ์ในการนับคะแนน

ด้านศาลฎีกาได้ปฏิเสธการเร่งการวินิจฉัยคำอุทธรณ์ของพรรครีพับลิกันไปก่อนหน้านี้ แต่ยังมีผู้พิพากษาอนุรักษ์นิยมอีก 3 รายยังเปิดโอกาสในการหยิบคดีนี้ขึ้นมาตัดสินอีกครั้งได้ภายหลังวันเลือกตั้ง

และแม้ว่าศาลจะหยิบยกคดีนี้ขึ้นมาตัดสินให้กับพรรครีพับลิกันอีกครั้ง แต่ศาลก็ไม่อาจชี้ขาดการลงคะแนนเสียงครั้งสุดท้ายในรัฐเพนซิลเวเนียได้ เพราะคดีนี้เจาะจงกับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ที่ได้รับภายหลังวันที่ 3 พ.ย.โดยเฉพาะ

เดวิด โบยส์ ผู้ซึ่งว่าความให้กับนายกอร์ในปี 2000 กล่าวว่ามันค่อนข้างเป็นไปได้ยากที่แคมเปญของทรัมป์จะประสบความสำเร็จในความพยายามครั้งที่ 3 ที่จะปิดกั้นเดดไลน์

“ผมคิดว่ามันเป็นการวางมาดและคาดหวังมากกว่าจะเป็นสิ่งอื่นใด” โบยส์กล่าว และเพิ่มเติมอีกว่า ผลการเลือกตั้งในเพนซิลเวเนียในตอนนั้นอาจไม่เกี่ยวเลยด้วยซ้ำ โดยขึ้นอยู่กับผลเลือกตั้งในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซินด้วย

ในอีกคดีในรัฐเพนซิเวเนียที่ยื่นฟ้องร้องที่ศาลรัฐบาลกลางในเมืองฟิลาเดลเฟีย พรรครีพับลิกันได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ในเขตชานเมืองของเขตมองต์โกเมอรี่ว่านับคะแนนเสียงจากบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ก่อนกำหนดอย่างผิดกฎหมาย และให้โอกาสผู้มาลงคะแนนเสียงที่ส่งบัตรเสียในการลงคะแนนใหม่ได้

ถ้านายไบเดนได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 270 คะแนนโดยที่ไม่ต้องพึ่งรัฐเพนซิลเวเนีย ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการต่อสู้ทางกฎหมายในรัฐนี้ก็จะสิ้นสลายไปไม่ว่ากรณีใด ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าว

และคำคัดค้านใด ๆ ก็จะต้องดำเนินการตามลำดับชั้นของศาลตามปกติอีกด้วย

“ผมคิดว่าท้ายที่สุดศาลจะปฏิเสธความพยายามใด ๆ ของประธานาธิบดีและทีมหาเสียงของเขาในการเร่งรัดกระบวดการทางกฎหมายที่เป็นไปตามปกติ” สตีฟ วลาเดค ศาสตราจารย์ท่านหนึ่งจากมหาวิทยาลัยแห่งเท็กซัสที่โรงเรียนกฎหมายแห่งเมืองออสติน
“ขนาดคดี บุช vs กอร์ ยังต้องดำเนินการขึ้นศาลรัฐฟลอริดาก่อนเลย”

อ้างอิง

รอยเตอร์

Reporting by Andrew Chung in New York, Lawrence Hurley in Washington, Karen Freifeld in New York, Suzanne Barlyn in Washington Crossing, Pa., and Tom Hals in Wilmington, Delaware; Editing by Noeleen Walder, Rosalba O’Brien and Grant McCool

ความเห็นผู้ชมทั่วไป