การนับคะแนนดันไบเดนจ่อชัยชนะ ทรัมป์ยังเคลมการเลือกตั้ง ‘ถูกขโมย’

โอกาสในการรับเลือกเข้ารับตำแหน่งอีกสมัยของทรัมป์เริ่มเลือนรางลง


สารบัญข่าว

โอกาสในการรับเลือกเข้ารับตำแหน่งอีกสมัยของทรัมป์เริ่มเลือนรางลง

วอชิงตัน/วิลมิงตัน, รัฐเดลาแวร์ (รอยเตอร์) — ด้วยโอกาสในการได้รับเลือกให้รับตำแหน่งอีกสมัยของเขาเริ่มเลือนรางจากการนับคะแนนในรัฐสมรภูมิการเลือกตั้งเพียงไม่กี่รัฐ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศโจมตีอย่างพิศดารต่อกระบวนการทางประชาธิปไตยของประเทศจากทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดี โดยได้กล่าวอ้างอย่างเป็นเท็จว่าการเลือกตั้งครั้งนี้กำลังถูก “ขโมย” ไปจากเขา

ทรัมป์ได้ด่าทอเจ้าหน้าที่เลือกตั้งและกล่าวหาว่ามีการฉ้อโกงในรัฐที่มีบัตรคะแนนยังไม่ได้นับเหลืออยู่จำนวนไม่มากแล้วกำลังหนุนในโจ ไบเดนเข้าสู่เส้นชัย โดยไม่มีการเสนอหลักฐานใด ๆ

“นี่เป็นคดีที่พวกเขากำลังพยายามขโมยการเลือกตั้ง” ทรัมป์กล่าว โดยได้กล่าวเป็นเวลาราว 15 นาทีในห้องบรรยายของทำเนียบขาวก่อนที่จะออกจากห้องไปโดยไม่ตอบคำถามใด ๆ

ด้านนายไบเดน อดีตรองประธานาธิบดี ค่อยๆชิงคะแนนนำของทรัมป์ในรัฐเพนซิลเวเนียและรัฐจอร์เจียไปอย่างไม่หยุดหย่อน แม้ในขณะที่เขายังรักษาคะแนนนำอยู่อย่างฉิวเฉียดในรัฐเนวาดาและแอริโซนา ทำให้เขายิ่งเข้าใกล้คะแนนเสียง 270 คะแนนในคณะผู้เลือกตั้งแต่ละรัฐ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในครั้งนี้

ในรัฐเพนซิลเวเนีย คะแนนนำของทรัมป์ได้หดลงจาก 319,000 ในช่วงบ่ายวันพุธ เหลือประมาณ 50,000 ในคืนวันพฤหัสบดี ขณะที่ส่วนต่างคะแนนเสียงของเขาในรัฐจอร์เจียหดลงจาก 68,000 เหลือเพียง 2,500 และมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขเหล่านี้จะยังขยับตัวอย่างต่อเนื่องไปสู่ฝ่ายของไบเดน โดยมีบัตรลงคะแนนเสียงคงค้างจำนวนมากในพื้นที่ซึ่งโดยปกติจะลงคะแนนให้กับพรรคเดโมแครตอย่างเมืองฟิลาเดลเฟียและแอตแลตา

ในขณะเดียวกัน นายไบเดนได้เห็นคะแนนนำของเขาในรัฐแอริโซนาหดลงจาก 93,000 เหลือราว 48,000 และเขายังนำอยู่ในรัฐเนวาดาด้วยเสียงโหวตเพียง 11,000 คะแนน

นายไบเดนจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไปได้โดยการชนะในรัฐเพนซิลเวเนีย หรือโดยการชนะ 2 ใน 3 รัฐดังต่อไปนี้ รัฐจอร์เจีย, รัฐเนวาดา และรัฐแอริโซนา ด้านเส้นทางที่อาจเป็นไปได้มากที่สุดของทรัมป์ก็เริ่มแคบลง — เขาต้องพึ่งทั้งรัฐเพนซิลเวเนียและรัฐจอร์เจียในขณะที่ยังต้องโค่นไบเดนในรัฐเนวาดาหรือแอริโซนาอีกด้วย

เครือข่ายโทรทัศน์ใหญ่ ๆ ส่วนมากแสดงคะแนนเสียงของนายไบเดนที่ประมาณ 214 ถึง 253 ในการโหวตของคณะผู้เลือกตั้ง ซึ่งโดยทั่วไปถูกกำหนดโดยจำนวนประชากรในแต่ละรัฐ หลังจากที่เขาได้ครองชัยชนะในรัฐที่มีบทบาทสำคัญอย่างรัฐวิสคอนซินและมิชิแกนในวันพุธ

ขณะที่มีผู้ชุมนุมเดินขบวนกันในหลายต่อหลายเมืองในสหรัฐฯเป็นเวลาสองวันติดกันแล้ว การเลือกตั้งอยู่ในมือของพนักงานของรัฐผู้ซึ่งกำลังนับบัตรลงคะแนนเสียงนับแสน ๆ ใบอย่างเป็นระบบ โดยจำนวนมากถูกส่งมาโดยไปรษณีย์ท่ามกลางการระบาดของโคโรนาไวรัส

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สุดท้ายในแต่ละรัฐนั้นอาจต้องใช้เวลาหลายวัน เคธี่ บุควาร์ เลขาธิการแห่งรัฐเพนซิลเวเนีย กล่าวในบ่ายวันพฤหัสบดีว่า ทางรัฐยังมีบัตรลงคะแนนเสียงอีกราว 350,000 ใบที่ยังต้องนับแต่คาดว่าส่วนใหญ่จะแล้วเสร็จในวันศุกร์

ในรัฐจอร์เจีย เกเบรียล สเตอร์ลิง เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งคนหนึ่ง กล่าวว่ามันต้อง “ใช้เวลา” เพื่อประมวลผลบัตรลงคะแนนนับหมื่น ๆ ใบที่ยังคงค้างอยู่ ด้านรัฐแอริโซนาที่ซึ่งมีบัตรลงคะแนนอย่างน้อย 400,000 ใบค้างอยู่ และรัฐเนวาดาซึ่งมีบัตรที่ยังไม่ได้นับอยู่ 190,000 ใบ ได้มีการคาดว่าจะต้องใช้เวลาหลายวันในการนับคะแนนให้แล้วเสร็จ

ประชาธิปไตยอัน 'ยุ่งเหยิง'

ข้อคิดเห็นของทรัมป์ตามด้วยการโพสต์ทวิตเตอร์อีกชุดหนึ่งจากเขาในช่วงก่อนหน้าในวันเดียวกันนี้ ที่ได้เรียกร้องให้การนับคะแนนเสียงยุติลง แม้ว่าเขายังมีคะแนนตามหลังไบเดนอยู่ในรัฐเป็นจำนวนมากพอที่จะหยิบยื่นตำแหน่งประธานาธิบดีให้แก่พรรคเดโมแครตก็ตาม

ในขณะเดียวกัน แคมเปญของทรัมป์ได้ดำเนินการฟ้องร้องหลายคดีในรัฐจอร์เจีย, มิชิแกน, เนวาดา และเพนซิลเวเนีย ทว่าผู้พิพากษาในรัฐจอร์เจียและรัฐมิชิแกนได้ปฎิเสธคำร้องของเขาอย่างรวดเร็ว ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่าคดีเหล่านี้มีโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะส่งผลกระทบใด ๆ ต่อผลคะแนนคณะผู้เลือกตั้งได้

นายไบเดนระบุในทวิตเตอร์เมื่อไม่นานหลังจากการปรากฏตัวในทำเนียบของทรัมป์ว่า “จะไม่มีใครสามารถเอาประชาธิปไตยไปจากเราได้” ในข้อคิดเห็นของเขาจากที่บ้านเกิดในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ นายไบเดนได้แสดงความมั่นใจว่าเขาจะชนะ และได้ชักชวนให้อยู่ในความสงบในระหว่างที่มีการนับคะแนน

“ประชาธิปไตยในบางครั้งมันก็ยุ่งเหยิง” ไบเดนกล่าว “บางครั้งมันก็ต้องใช้ความอดทนสักหน่อย แต่ความอดทนนั้นก็ได้ให้รางวัลมายาวนานจวบจนปัจจุบันมาเป็นเวลา 240 ปีแล้วในระบอบการปกครองอันเป็นที่ทั่วโลกต่างใฝ่หา”

โพลล์ใหม่ของ Reuters/Ipsos ชี้ให้เห็นว่าผู้คนชาวอเมริกันจากทั่งสองฝ่ายกำลังปฏิเสธการประกาศชัยชนะก่อนเวลาอันควรของทรัมป์เพื่อที่จะได้นับคะแนนเสียงทั้งหมด

การเลือกตั้งที่สูสีไลเลี่ยกันในครั้งนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความแตกแยกทางการเมืองอันลึกซึ้งของประเทศ ขณะเดียวกันการนับคะแนนเสียงที่ล่าช้าของบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ก็เป็นการเตือนให้ระลึกถึงการระบาดใหญ่ที่เป็นอันตรายถึงชีวิตครั้งนี้ที่ยังคงทำให้ชีวิตของชาวอเมริกันพลิกผันไปทั่ว

หากนายไบเดนชนะ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่สามารถเสนอการปฏิเสธทรัมป์อย่างท่วมท้นได้ดังที่พรรคเดโมแครตหวังไว้ สะท้อนถึงการสนับสนุนอย่างลึกซึ้งที่ประธานาธิบดีได้รับแม้ว่า 4 ปีที่ผ่านมาจะอลวนวุ่นวายก็ตาม อิทธิพลของทรัมป์ต่อพรรครีพับลิกันจะยังคงเข้มแข็งอยู่ ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดเขาจะแพ้การเลือกตั้งไปอย่างฉิวเฉียด

อย่างไรก็ดี ผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องเผชิญกับการระบาดใหญ่ที่ได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปกว่า 234,000 ราย และอีกนับล้านรายที่ต้องสูญเสียหน้าที่การงาน แม้ในขณะที่ประเทศยังต้องต่อสู้กับผลพวงของความไม่สงบเกี่ยวกับชาติพันธุ์และความรุนแรงของตำรวจอยู่นานหลายเดือน

คะแนนนำของนายไบเดนในด้านคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั่วประเทศพุ่งทะลุ 4 ล้านเสียงแล้วในคืนวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ดี นั่นไม่ได้มีบทบาทในการชี้ขาดว่าใครจะเป็นผู้ชนะในครั้งนี้ ในปี 2016 ทรัมป์ได้แพ้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงไปถึง 3 ล้านเสียงให้กับนางฮิลลารี คลินตัน ในตอนนั้นเขาได้กุมชัยชนะด้วยการมีชัยในรัฐสำคัญต่าง ๆ ในคณะผู้เลือกตั้งไป

เขากำลังพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯผู้ที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่เป็นคนแรกที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งสมัยที่ 2 นับตั้งแต่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช เพื่อนร่วมพรรครีพับลิกันในปี 1992

ทรัมป์ผู้ซึ่งเพลิดเพลินกับการต่อสู้ทางกฎหมายอยู่บ่อยครั้งในระหว่างอาชีพสายธุรกิจอันโกลาหลวุ่นวายของเชา ได้พักอยู่ที่ทำเนียบขาวทำงานกับโทรศัพท์และจับตาดูความเคลื่อนไหวผ่านทางโทรทัศน์ โฆษก 2 รายของทรัมป์ระบุ เขาได้พูดคุยกับผู้ว่าการรัฐหลายรายพร้อมทั้งเพื่อนสนิทและผู้ช่วยทั้งหลาย และได้ส่งโฆษกคนสนิทบางคนของเขาออกภาคสนามไปต่อสู้เพื่อเขาด้วย

“เขามีส่วนร่วมมาก เขากำลังจับตามอง พูดคุยกับทุกรัฐ” คนสนิทคนหนึ่งของทรัมป์กล่าว “มันดูท่าไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่แต่เขาต้องการสู้ต่อไป ตอนนี้เขากำลังมีใจสู้ เขาไม่ได้กำลังโศกเศร้าหรือหดหู่ใจ แต่หนทางกำลังยากลำบากขึ้นเรื่อย ๆ”

ทั้งทวิตเตอร์และเฟสบุคได้ตั้งค่าสถานะโพสต์ของทรัมป์จำนวนมากตั้งแต่วันเลือกตั้งว่าเป็นการทำให้เข้าใจผิด

อย่างไรก็ตาม คำพูดของทรัมป์ได้เจอกับแรงเสียดทานจากผู้สนับสนุนบางส่วน กลุ่มเฟสบุคที่ชื่อว่า “Stop the Steal” กำลังผลักดันคำอ้างอันเป็นเท็จของการฉ้อโกงคะแนนเสียงได้มีสามาชิกใหม่เข้าร่วมกลุ่มนับแสนรายในวันพฤหัสบดี ก่อนที่โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายนี้จะลบกลุ่มอกไปโดยอ้างอิงการเรียกร้องให้ใช้ความรุนแรง

ผู้สนับสนุนของผู้สมัครทั้งสองได้จัดการประท้วงเล็ก ๆ ขึ้นภายนอกศูนย์ลงคะแนนในวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตามการชุมนุมทั้งหลายนี้โดยทั่วไปเป็นไปอย่างสงบ

อ้างอิง

รอยเตอร์

Reporting by Jeff Mason, Steve Holland and Trevor Hunnicutt; Additional reporting by Lawrence Hurley, Julia Harte, Jason Lange, Sarah N. Lynch, Daphne Psaledakis, Andy Sullivan, Susan Heavey, Doina Chiacu and Will Dunham in Washington, Mimi Dwyer in Phoenix, Tim Reid in Los Angeles, Tom Hals in Delaware and Kanishka Singh in Bengaluru; Writing by Joseph Ax; Editing by Soyoung Kim and Daniel Wallis

ความเห็นผู้ชมทั่วไป