ตลาดโลก - วอลล์สตรีท แตะจุดสูงสุดตลอดกาล ผลตอบแทนการคลังทะยานด้วยความหวังวัคซีน

ดัชนี S&P 500 และ Dow Jones ตามดัชนีหุ้นทั่วโลกไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แ


สารบัญข่าว

ดัชนี S&P 500 และ Dow Jones ตามดัชนีหุ้นทั่วโลกไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แ

* วอลล์สตรีทและตลาดโลกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

* Pfizer กล่าว วัคซีนโควิด-19ได้ผล 90%

* น้ำมันดิบ, ปันผลการคลังสหรัฐฯ ทะยาน, ทองหล่น

* ไบเด็นชนะช่วยหนุนสกุลเงินที่อ่อนไหวต่อการค้า

* กราฟฟิก: ประสิทธิภาพของสินทรัพย์ ปี 2020 ลิงก์

* กราฟฟิก: เรท FX โลกในปี 2020 ลิงก์

นิวยอร์ก, 9 พฤศจิกายน (รอยเตอร์) — ดัชนี S&P 500 และ Dow Jones ตามดัชนีหุ้นทั่วโลกไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และผลตอบแทนกระทรวงการคลังสหรัฐฯทะยานในวันจันทร์ เนื่องจากพัฒนาการที่ดูมีความหวังของวัคซีนโคโรนาไวรัส และโอกาสของความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีขึ้นภายใต้ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กระตุ้นให้นักลงทุนกล้ารับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

หุ้นมูลค่าได้ดันดัชนีหุ้นหลักทั้ง 3 ดัชนีของสหรัฐฯไปสู่จุดสูงสุดตลอดกาล และราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 10%

ดัชนีเหล่านี้ได้เปรียบเทียบกำไรกันในภายหลัง และดัชนี Nasdaq ล่าสุดคงตัว

ด้านบริษัท Pfizer Inc กล่าวว่าวัคซีนโควิด-19 ที่ได้ร่วมกันพัฒนากับบริษัท BioNTech จากประเทศเยอรมนี ใช้ได้ผลถึง 90% ในการป้องกันการติดเชื้อ นับเป็นผลสำเร็จครั้งแรกจากการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่

“นักลงทุนต่างมีทัศนคติในแง่ดีอย่างแท้จริง และมีผู้ที่ขายหุ้นออกไม่มากนัก” โอลิเวอร์ เพิร์ช ประธานบริษัท Bronson Meadows Capital Management จากเมืองแฟร์ฟีลด์ รัฐคอนเนตทิคัต กล่าว “ทัศนคติในแง่ดีครั้งนี้เป็นผลสะท้อนจากสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งหุ้น, ผลตอบแทนการคลัง, ราคาน้ำมั้น ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และราคาทองที่ตกลงอย่างชัดเจน”
“วันศุกร์ที่แล้วเรายังพูดคุยเกี่ยวกับการล็อคดาวน์ครั้งใหม่ — ข้อจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับร้านอาหารและบาร์ — และนี่เป็นเหมือนแสงที่ปลายอุโมงค์” นายเพิร์ชกล่าวเพิ่ม

ผู้นำประเทศทั่วโลกต่างยินดีกับผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ มีการแสดงความยินดีกับว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แม้ว่าขณะนี้โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ดำรงตำแหน่งคนปัจจุบันจะปฏิเสธที่จะยอมรับพร้อมทั้งปฏิญาณว่าจะคัดค้านผลการเลือกตั้ง

ดัชนีความผันผวนของตลาด CBOE ซึ่งเปรียบเสมือนตัวชี้วัดความวิตกกังวลของนักลงทุน ได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม

ด้าน Dow Jones Industrial Average ไต่ขึ้น 1,260.16 จุด หรือ 4.45% ที่ 29,583.56 ขณะที่ S&P 500 ขยับขึ้น 93.09 จุด หรือ 2.65% ที่ 3,602.53 และ Nasdaq Composite ลงมา 1.21 จุด หรือ 0.01% ที่ 11,894.02

คำแถลงของบริษัท Pfizer ได้ส่งแรงสั่นสะเทือนไปยังหุ้นทางฝั่งยุโรป ดันให้หุ้นทะยานสูงขึ้นที่สุดในรอบ 8 เดือน จากความคาดหวังของนโยบายทางการค้าที่มั่นคงยิ่งขึ้นหลังจากชัยชนะของนายไบเดน

ด้านหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX 600 ขยับขึ้น 3.98% และ มาตรวัดหุ้นทั่วโลกของ MSCI ขยับขึ้น 2.17%

ทางด้านตลาดเกิดใหม่ขยับตัวขึ้นเช่นกันที่ 1.37% ดัชนีหุ้นที่กว้างที่สุดแถบเอเชียแปซิฟิกนอกชายฝั่งญี่ปุ่นของ MSCI ปิดตลาดด้วยมูลค่าที่สูงขึ้น 0.96% ขณะที่ดัชนีนิคเคอิของญี่ปุ่นขยับขึ้น 2.12%

ข่าวเรื่องวัคซีนได้ส่งผลตอบแทนเกณฑ์มาตรฐานระยะ 10 ปีของกระทรวงการคลังสหรัฐฯทะยานขึ้นถึงจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม และได้ส่งเส้นโค้งของผลตอบแทน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเช่นกัน ในทัศนคติในแง่ดี เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกนี้จะโผล่พ้นภาวะถดถอยที่เกิดจากการระบาดใหญ่ได้

พันธบัตรเกณฑ์มาตรฐานระยะ 10 ปีล่าสุดตก 41/32 ในราคาต่อผลตอบแทน 0.9594% จาก 0.82% ในช่วงหลังของวันศุกร์

พันธบัตรระยะ 30 ปีล่าสุดตก 109/32 ในราคาต่อผลตอบแทน 1.75% จาก 1.598% ในช่วงหลังของวันศุกร์

ด้านราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะทะยานขึ้นไปถึงเปอร์เซ็นต์รายรับที่มากที่สุดในแต่ละวันในอีก 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากข่าววัคซีนและข้อตกลงการส่งออกของโอเปกได้กระตุ้นให้เกิดความหวังว่าความต้องการในตลาดจะดีดตัวกลับคืน

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯพุ่งขึ้น 8.48% และได้คงตัวที่ 40.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์คงตัวที่ 42.40 ดอลลาร์ สูงขึ้น 7.48% ในวันเดียว

โอกาสในการเข้ารับตำแหน่งของนายไบเดน ทำให้สกุลเงินที่เกี่ยวของกับการค้าได้ลอยตัวขึ้นด้วยความคาดหวังของการชะลอตัวของสงครามภาษี ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ขยับตัวขึ้นจากจุดตำสุดในรอบ 10 สัปดาห์

ดัชนีดอลลาร์ขยับขึ้น 0.59% ด้านยูโรอ่อนค่าลง 0.35% ที่ 1.1831 ดอลาร์

ส่วนเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเช่นกันที่ 1.98% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ 105.44 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ล่าสุดมีการแลกเปลี่ยนที่ 1.3169 ดอลลาร์ ขยับขึ้นมา 0.10% ในวันนี้

ราคาทองคำร่วงเนื่องจากนักลงทุนต่างพากันแยกตัวออกจากทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อสนับสนุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า

ราคาทองคำโลกร่วงลง 4.3% เป็น 1,866.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อ้างอิง

รอยเตอร์

Reporting by Stephen Culp; additional reporting by Danilo Masoni; Editing by Dan Grebler

ความเห็นผู้ชมทั่วไป