การเสนอขายหุ้น IPO ที่ถูกระงับของ Ant เกี่ยวข้องกับเงินหยวนดิจิทัลของจีนอย่างไร

การเสนอขาย IPO ของ Ant ที่ถูกระงับแสดงให้เห็นแรงจูงใจในการดันหยวนดิจิทัล


สารบัญข่าว

การเสนอขาย IPO ของ Ant ที่ถูกระงับแสดงให้เห็นแรงจูงใจในการดันหยวนดิจิทัล

การเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ Ant Group ที่ได้ถูกระงับได้ให้ความกระจ่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับแรงจูงใจอันเป็นเบื้องหลังของเงินหยวนดิจิทัลของจีน ดูเฟมือนว่ารัฐบาลจีนจะมองว่ายักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินเป็นตัวการสั่นคลอนความมั่นคงของเศรษฐกิจจีน และเงินหยวนในรูปแบบดิจิทัลนี้จะเป็นวิธีที่จะช่วยให้บริษัทประเภทนี้คงอยู่ในความโปร่งใสตรวจสอบได้

ผู้สังเกตการณ์อุตสาหกรรมกล่าวว่า ธนาคารประชาชนจีน (PBoC[1]) อาจใช้เงินหยวนดิจิตอลเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่ครอบคลุมขึ้นในการยับยั้งการเติบโตของ Alipay และ WeChat Pay โดยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC[2]) สามารถทุบธุรกิจสินเชื่อขนาดเล็กของ Alipay และให้บริการการเงินที่ไม่ต้องมีธนาคาร ในขณะที่ดึงเงินฝากจากธนาคารพาณิชย์คืนด้วย

การเสนอขายหุ้น IPO ของ Ant ได้เผยให้เห็นถึงข้อผิดพลาดในอุตสาหกรรมการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล และธนาคารกลางของจีนก็มีแรงจูงใจในการเปิดตัวเงินหยวนดิจิทัลและให้อำนาจแก่ตนเองมากขึ้นในการตรวจสอบแพลตฟอร์มการชำระเงินประเภทบุคคลที่สาม ทานวี รัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่งบริษัทฟินเทค Think Tank Policy 4.0 กล่าวว่า Policy 4.0 กำลังจัดทำรายงานการวิจัยที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลประจำชาติของจีนที่ซึ่งจะมีการเปิดตัวในวันที่ 18 พ.ย. นี้

ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงได้หนุดการเสนอขายหุ้น IPO คู่มูลค่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ของ Ant เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของจีนแจ้งความกังวลเกี่ยวกับธุรกิจสินเชื่อขนาดเล็กที่กำลังเฟื่องฟูของ Ant ที่อาจเพิ่มหนี้สินให้กับเศรษฐกิจที่มีการคานอำนาจสูงของประเทศ

บริษัท Huabei ผู้ร่วมปล่อยกู้ในเครือของ Ant ซึ่งเป็นบัตรเครดิตแบบเวอร์ชวลในตัวของ Alipay อำนวยความสะดวกในการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารพาณิชย์และผู้กู้ ขณะที่ Jiabei เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อการบริโภคระยะสั้น แม้ว่าจะได้รับส่วนแบ่งดอกเบี้ยเงินกู้มากถึง 40% แต่ Alipay แบกรับความเสี่ยงด้านเครดิตน้อยกว่าธนาคารเป็นอย่างมาก โดยมีเพียง 2% ของเงินกู้ที่ Ant ได้อำนวยการในเดือนมิถุนายนอยู่ในงบดุล อ้างอิงจากหนังสือชี้ชวน IPO

วิธีหนึ่งสำหรับธนาคารกลางจีนที่จะควบคุมธุรกิจสินเชื่อของ Alipay คือการกำหนดให้ทางบริษัทแปลงเงินสดเป็นเงินหยวนดิจิทัลเพื่อรับประกันการกู้ยืมเงินของผู้บริโภค

“ทางธนาคารสามารถทำให้แพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลใช้เงินหยวนดิจิทัลเพื่อปล่อยกู้ได้ในราคาที่สูงขึ้น และนี่อาจเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะบังคับใช้” รัตนากล่าว

หนึ่งวันก่อนที่ Ant จะเสนอขายหุ้น IPO หน่วยงานผู้กำกับดูแลด้านการเงินชั้นนำของจีนได้เผยแพร่เอกสารคำแนะนำเพื่อกำหนดให้ผู้ให้กู้ยืมออนไลน์ให้ควักเงินตนเองอย่างน้อย 30% ในการให้กู้ยืมร่วมกับธนาคาร ทำให้ Ant ปล่อยกู้ได้ยากขึ้น

ธุรกิจสินเชื่อที่กำลังเฟื่องฟูของ Ant ได้ทำให้เกิดความขัดแย้งกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินชั้นนำของจีนในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังต่อสู้อยู่กับความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นและธนาคารที่กำลังอ่อนแอ เพื่อเป็นการควบคุมการเติบโตด้านอิทธิพลของยักษ์ใหญ่ด้านฟินเทคที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทางการปักกิ่งจึงเสนอแนวทางการปฏิบัติชุดใหม่ในการต่อต้านการประกอบการแบบผูกขาดของบริษัทฟินเทคต่าง ๆ ในวันพุธ

“จีนมีความใส่ใจอย่างมากต่อปัญหาหนี้สินของตน ธุรกิจจำนวนมากไม่มีกระแสเงินสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส” รัตนากล่าว “Ant กำลังผลักดันสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งสินเชื่อจำนวนมากอาจส่งผลเสียได้”

Alipay ไม่ได้มีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอในการส่งรายงานข้อมูลการปล่อยสินเชื่อของผู้บริโภคให้กับธนาคารของจีน ในขณะที่ Huabei และ Jiabei มีการเปิดตัวในเดือนมกราคม 2018 แต่พวกเขาไม่ได้มีการแบ่งปันข้อมูลกับธนาคารกลางจีนจนกระทั่งสิ้นเดือนกรกฎาคมของปีนี้ ตามคำขอของธนาคารกลาง

เงินหยวนดิจิทัลสามารถเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพทางการเงินโดยการให้ธนาคารมามารถติดตามและวิเคราะห์สินทรัพย์ด้อยคุณภาพได้ดีขึ้น รัตนากล่าว

“สำหรับทางธนาคารกลางแล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่สินทรัพย์อ้างอิงจะถูกแปลงเป็นเงินหยวนดิจิทัล” เธอกล่าว “มันสามารถช่วยธนาคารในการแก้ปัญหาเรื้อรังมากมายในระบบการเงินได้ รวมไปถึง ภาคธนาคารเงา, สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และการจัดหาเงินทุนนอกระบบที่มากเกินไป”

เงินฝากรั่วไหล

ยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินของจีนได้ก่อให้เกิดภัยคุกคามอื่น ๆ เช่นกัน ธนาคารพาณิชย์ในจีนกำลังสูญเสียเงินฝากให้กับแพลตฟอร์มการชำระเงินต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ธนาคาร ตลาดธนาคารบนโทรศัพท์มือถือของจีนมีมูลค่าประมาณ 8ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 โดย Alipay ครองตลาดไป 55% และ WeChat Pay ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 39%

Alipay มีกองทุนตลาดเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกในชื่อ Yu’e Bao ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นกองทุนรวมที่มักจะลงทุนในประเภทสินทรัพย์ปลอดถัยอย่างเช่น พันธบัตรตั๋วเงินคลัง เพื่อที่จะรับดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์หลากหลายประเภทในธนาคารพาณิชย์ทั่วไป ผู้ใช้มักใส่เงินสดมีพวกเขามีอยู่ในแอพเข้ากองทุน ด้วยกองทุนอื่นที่คล้ายคลึงกันบนแพลตฟอร์มการจัดจำหน่าย ทาง Alipay มีสินทรัพย์รวมเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน

“อัตราส่วนเงินกู้ต่อเงินฝากเป็นตัวกำหนดจำนวนเงินที่ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยให้กู้ยืมได้” ออโรรา หว่อง รองประธานบริษัทคริปโต ZB Group กล่าว “การฝากเงินสดมากขึ้นทำให้ธนาคารสามารถปล่อยกู้ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีกำไรมากที่สุดจากการได้รับดอกเบี้ย”

ธนาคารพาณิชย์ของจีนจำเป็นต้องรักษาหรือเพิ่มฐานเงินฝากเพื่อให้สอดคล้องกับการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจดำดิ่งลง

ธนาคารพาณิชย์บางแห่งในจีนคาดหวังว่าผู้ฝากเงินรายย่อยจะใช้เงินหยวนดิจิทัลในการทำธุรกรรมการชำระเงิน เมื่อผู้ใช้แปลงสกุลเงินเวอร์ชวลกลับไปเป็นเงินกระดาษ เงินสดจะยังคงอยู่ในบัญชีธนาคารแทนที่จะอยู่ในแอพชำระเงินบนโทรศัพท์มือถือ

ความพยายามล่าสุดในการสนุบสนุนให้เปลี่ยนมาใช้เงินหยวนดิจิทัลให้เป็นวงกว้างคือการแจกเงินจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์จากธนาคารประชาชนจีนในเดือนตุลาคมให้แก่พลเมืองชาวเซินเจิ้น หว่องกล่าว

ผู้เข้าร่วมจำนวน 50,000 คนซึ่งได้โหลดแอพกระเป๋าเงินดิจิทัล จะได้รับเลือกโดยการจับฉลากเพื่อรับเงินประมาณ 30 ดอลลาร์ ในระหว่างแคมเปญทั้งสัปดาห์ ด้านร้านค้าในเซินเจิ้นต่างพากันโพสต์รหัส QR เพื่อให้ผู้ใช้แอพกระเป๋าเงินสแกนในการชำระเงินสำหรับการซื้อสินค้า

ผลประโยชน์ของเงินหยวนดิจิทัลต่อธนาคารพาณิชย์ของจีนมีมากกว่าแค่การเพิ่มเงินฝาก ด้วยฐานผู้ใช้ที่มากขึ้น ทางธนาคารจะมีข้อมูลธุรกรรมมากขึ้นในการจัดทำโปรไฟล์ของผู้บริโภค วิเคราะห์พฤติกรรมออนไลน์ และทำการทดลองด้วยวิธีต่าง ๆ ในการสร้างรายได้จากข้อมูลนี้

“ธนาคารพาณิชย์ในจีนกำลังกลายสภาพให้มีความคล้ายคลึงกับบริษัทฟินเทคมากขึ้น” หว่องกล่าว “ฉันคิดว่านี่ไม่ใช่การแจกเงินในสกุลเงินเวอร์ชวลเป็นครั้งสุดท้าย และจะมีโครงการอื่น ๆ อีกมากมายเกิดขึ้นเพื้อชักจูงให้ผู้บริโภคใช้แอพกระเป๋าเงินจากธนาคารพาณิชย์”

การปรับใช้อย่างกว้างขวาง

กระนั้น Alipay และ WeChat Pay ก็ยังคงเป็นอุปสรรคในการยอมรับและปรับใช้เงินหยวนอย่างกว้างขวางทั่วไปอยู่ ในช่วงทดลองแจกเงินในเดือนที่แล้ว ผู้บริโภคบางรายยังชอบใช้แอพในการชำระเงอนผ่านโทรศัพท์มือถือทั้งสองค่ายนี้เนื่องจากใช้งานสะดวกกว่า

“คำถามถึงการยอมรับเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับธนาคารกลาง” รัตนากล่าว “นี่เป็นแหล่งรายได้ชั้นดีสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ธนาคารกลางเคยประสบพบเจอมาก่อน”

นโยบายการกำกับดูแลที่ดีสำหรับเงินหยวนดิจิทัล คุณสมบัติทางเทคนิคเฉพาะที่ช่วยให้ผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินขั้นพื้นฐานได้ และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานสำหรับกระเป๋าเงินดิจิทัลท้องถิ่น เป็นวิธีที่เป็นไปได้มากที่สุดในการเพิ่มการยอมรับเงินหยวนดิจิทัลอย่างแพร่หลาย

คุณสมบัติทางเทคนิคประการหนึ่งที่ทำให้เงินหยวนดิจิทัลแตกต่างจาก Alipay ในแง่การชำระเงินคือผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารผูกติดกับแอพโทรศัพท์มือถือในการทำธุรกรรมเงินสด

ประเทศจีนมีประชากรกว่า 225 ล้านรายที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประชากรที่ไม่มีบัญชีธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก อ้างอิงจากรายงานในปี 2017 ของ Global Findex

บัญชีเงินหยวนดิจิทัลมีข้อกำหนดที่ยืดหยุ่นได้ของกระบวนการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า (KYC) ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนเงินหยวนดิจิทัลที่คุณต้องการถือครองและใช้จ่าย ฉวนเหว่ย โจว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน PlatOn กล่าว

“ยิ่งคุณลงทะเบียนข้อมูลประจำตัวกับกระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลมากเท่าไหร่ คุณก็สามารถมีเงินหยวนในกระเป๋าเงินได้มากขึ้นเท่านั้น” นายโจวกล่าว

สำหรับ Alipay และ WeChat Pay ผู้ใช้จะต้องลงทะเบียนด้วยบัญชีธนาคารของตนเอง ซึ่งต้องใช้บัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล ในแอพจะใช้การจดจำใบหน้าและหมายเลขโทรศัพท์ในการยืนยันตัวตนด้วย

เฉพาะผู้ใช้ที่มียอดเงินเพียงไม่กี่พันดอลลาร์ในกระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลเท่านั้นที่สามารถใช้งานโดยไม่เปิดเผยตัวตนได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฝากเงินรายย่อยจำนวนมากในจีน นายโจวกล่าว

การแยกตัวออกจากบัญชีธนาคารยังช่วยให้ชาวต่างชาติในจีนและผู้ที่มีความต้องการทำธุรกรรมเงินหยวนภายนอกประเทศ ธนาคารกลางมีแผนที่จะทดลองใช้ระบบนี้ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในปี 2022 ซึ่งชาวต่างชาติในจีนจะสามารถแกลเปลี่ยนสกุลเงินที่รองรับโดยรัฐบาลอื่น ๆ เป็นเงินหยวนดิจิทัลได้โดยที่ไม่ต้องพกเงินสดหรือเปิดบัญชีธนาคาร

เงินหยวนดิจิทัลจะช่วยให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อสินค้าและบริการในจีน และอนุญาตให้ทุกคนที่อยู่นอกประเทศสามารถโอนเงินข้ามพรมแดนได้โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคารเนื่องจากาสกุลเงินเวอร์ชวลนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่จัดการโดยธนาคารประชาชนจีน นายโจวกล่าว

“เงินหยวนดิจิทัลจะเปลี่ยนโครงสร้างตลาดของการชพระเงินดิจิทัลในแง่ของการยอมรับในระยะสุดท้าย” นายโจวกล่าว “เรามีแอพบนโทรศัพท์มือถือของธนาคารพาณิชย์, Alipay และ WeChat Pay อยู่แล้ว และอาจมีแอพเนทีฟสำหรับสกุลเงินดิจิทัลนี้ซึ่งอาจเป็นแอพแบบสแตนด์อโลน หรือยังสามารถรวมเข้ากับแอพชำระเงินประเภทบุคคลที่สามก็ได้”

ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 4 แห่งของจีนได้รวมบัญชีเงินหยวนดิจิทัลไว้ในแอพบนอุปกรณ์พกพาของตนเอง ในขณะที่ธนาคารกลางยังไม่อนุญาตให้ Alipay และ WeChat Pay รวมเงินหยวนดิจิทัลเป็นตัวเลือกในการชำระเงินของตน

เช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนนโยบายที่สำคัญอื่น ๆ รัฐบาลจีนริเริ่มสกุลเงินดิจิทัลของประเทศในรูปแบบการลองผิดลองถูก รัตนากล่าว

“ธนาคารกลางยังไม่ได้เผยไพ่ทั้งหมดในมือออกมา” เธอกล่าว

ภาคผนวก

 [1]People’s Bank of China

 [2]Central Bank Digital Currency

อ้างอิง

coindesk

By David Pan

ความเห็นผู้ชมทั่วไป