หุ้นเอเชียพุ่งเป็นประวัติการณ์เนื่องจากความหวังจากวัคซีนลดความกลัวไวรัสลง

หุ้นทางฝั่งเอเชียทะยานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์


สารบัญข่าว

หุ้นทางฝั่งเอเชียทะยานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์

ซิดนีย์ (รอยเตอร์) — หุ้นทางฝั่งเอเชียทะยานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์เนื่องจากทัศนคติในแง่ดีจากวัคซีนและข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากจีนและญี่ปุ่นได้บดบังความวิตกกังวลต่อเคสโคโรนาไวรัสที่กำลังเพิ่มจำนวน เป็นการยกระดับทุกภาคส่วน

ดัชนีหุ้น .MIAPJ0000PUS แถบเอเชียแปซิฟิกที่กว้างขวางที่สุดนอกชายฝั่งญี่ปุ่นของ MSCI ขยับขึ้น 1% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการเปิดตัวในปี 1987 พร้อมด้วยตลาดทั่วทั้งภูมิภาคที่พากันแตะจุดพีค

ดัชนีนิคเคอิของญี่ปุ่น .N225 มีการซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบ 29 ปี, ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ .KS11 อยู่ที่จุดสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2018 และดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลีย .AXJO ได้แตะจุดสูงสุดในรอบ 8 เดือนในตอนเช้า ก่อนที่จะเกิดความผิดพลาดทำให้ต้องระงับการแลกเปลี่ยน [.T] [.KS] [.AX]

ด้านดัชนีล่วงหน้า S&P 500 Esc1 สูงขึ้น 0.6% หลังจากที่ได้ปิดตลาดด้วยสถิติใหม่ในวันศุกร์ ดัชนีล่วงหน้า Nasdaq 100 NQc1 กระโดดขึ้น 1% และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในยุโรปได้ทะยานขึ้นอย่างแข็งขันด้วยดัชนีล่วงหน้า EuroSTOXX 50 STXEc1 ขยับขึ้น 0.8% และดัชนีล่วงหน้า FTSE FFIC1 ขยับขึ้น 0.5%

“มีเงินสดกองเท่าภูเขากองรวม ๆ กันอยู่ข้างสนาม กำลังรอให้เราส่งลงแข่งขันในสนาม และในเมื่อเราได้ข่าววัคซีนนี้พร้อมทั้งการเลือกตั้งที่ความเสี่ยงกำลังยุบตัวลงในสหรัฐฯ เงินทั้งหมดนี้จะได้บินเข้าสู่ตราสารทุน” ไคล์ รอดดา นักวิเคราะห์จาก IG Markets กล่าว “ทุก ๆ คนกำลังคิดว่าตอนนี้ถึงคิวที่จะต้องเข้าร่วมตลาดแล้ว”

ด้านตลาดสกุลเงินและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มีความระมัดระวังขึ้นเล็กน้อย แต่ค่าเงินดอลลาร์มีการขยับตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่เปิดเผยทางการค้า และราคาน้ำมันได้คงตัวหลังจากดำดิ่งลงในวันศุกร์ [FRX/] [O/R]

เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ทุบสถิติและคาดการณ์เพื่อดึงเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกออกจากภาวะถดถอย และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ดีเกินคาดในจีนช่วยส่งเสริมความกระตือรือร้นเช่นเดียวกับข้อตกลงทางการค้าในช่วงสุดสัปดาห์

ในขณะที่มีรายละเอียดไม่มากนัก แต่เศรษฐกิจแถบเอเชียแปซิฟิกทั้ง 15 ประเทศ รวมทั้งจีนและญี่ปุ่น ไม่รวมสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะลดอัตราภาษีในช่วงที่มีการตั้งภาษีศุลกากรสูงในภูมิภาคอื่น

เหตุผลที่ควรต้องระวัง

ผลกำไรที่ขับเคลื่อนด้วยกระแสได้เกิดขึ้นแม้จะมีเหตุผลหลายประการที่ยังต้องเป็นกังวล ประธานาธิบดีโดนัลด์ของสหรัฐฯกำลังขุดคุ้ยเพื่อดึงการเปลี่ยนผ่านอำนาจไปสู่ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนออก


Axios รายงานว่าทรัมป์วางแผนที่จะดำเนินนโยบายเชิงรุกต่อจีนในอีก 10 สัปดาห์ข้างหน้า ผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในยุโรปและสหรัฐฯ และมีการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ด้านการเจรจา Brexit ก็ได้ดำเนินมาถึงทางแยกที่เปราะบางอีกครั้ง

คลื่นของการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐวิสาหกิจในจีนทำให้นักลงทุนตราสารหนี้ในจีนแผ่นดินใหญ่เกิดความวิตกกังวลอีกด้วย

ความกลัวบางประการเหล่านี้ได้ทำให้ความเคลื่อนไหวของตลาดสกุลเงินอยู่ในความระมัดระวัง และทำให้น้ำมัน ซึ่งเป็นตัวแทนของการเติบโตทั่วโลก อยู่ในจุดที่ต่ำกว่าจุดพีคในสัปดาห์ที่แล้ว

“มีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อจำกัดที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการควมคุมการระบาดของไวรัส” วิเวค ดาร์ นักวิเคราะห์สินค้าจาก Commonwealth Bank of Australia กล่าว “ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นมีความเสี่ยงเป็นพิเศษจากข้อจำกัดด้านการเดินทาง เนื่องจากการขนส่งนับเป็น 2 ใน 3 ส่วนของการบริโภคน้ำมันทั่วโลก”

ทางด้าน Brexit การจากไปของ โดมินิค คัมมิงส์ ที่ปรึกษาผู้ไม่ยอมถอยจาก Downing Street ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ดี อาจหมายความว่าอังกฤษจะได้สัมปทานมากขึ้น แต่นายเดวิด ฟรอสต์หัวหน้านักเจรจาระบุในทวิตเตอร์ว่าการเจรจา “อาจไม่เป็นผลสำเร็จ”

เงินปอนด์ขยับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ GBP= และค่าเงินยูโร EURGBP= ด้านเงินยูโร EUR= แข็งขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ที่ 1.1848 ดอลลาร์

ส่วนเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ NZD=D3 ของชาวกีวี ขยับขึ้น 0.5% เป็น 0.6883 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียหดตัวเล็กน้อยก่อนสัปดาห์แถลงการณ์และการเปิดเผยข้อมูลสำคัญของธนาคารกลาง โดยจะมีการเปิดสุนทรพจน์โดยผู้ว่าการฟิลลิป โลว์จากธนาคารกลางแห่งออสเตรเลียในเวลา 08:40น ตามเวลามาตรฐานกรีนิช

ผู้บรรยายจากธนาคารกลางสหรัฐฯจำนวนหนึ่งก็ได้เข้าร่วมในสัปดาห์นี้เช่นกัน นำโดยรองประธานริชาร์ด คลาริดา ในเวลา 19:00น ตามเวลามาตรฐานกรีนิช

พันธบัตร ซึ่งได้มีการขายออกอย่างแข่งขันจากข่าววัคซีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้คงที่ ณ จุดเดิมจากในวันศุกร์ ด้วยผลตอบแทนจากตราสารหนี้เกณฑ์มาตรฐานระยะ 10 ปีของสหรัฐฯอเมริกา US10YT=RR ที่ 0.8930% ลดลงจากจุดสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ 0.97% [US/]

ราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้น โดยราคาสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้า LCOc1 สูงขึ้น 0.7% เป็น 43.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแต่ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบสองเดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ 45.30 ดอลลาร์ ด้านน้ำมันดิบสหรัฐฯ CLc1 สูงขึ้น 1% เป็น 40.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล [O/R]

ราคาทองคำโลก XAU= สูงขึ้น 0.4% เป็น 1,896 ดอลลาร์ต่อออนซ์ [GOL/]

อ้างอิง

รอยเตอร์

Reporting by Tom Westbrook in Sydney; Editing by Sam Holmes and Richard Pullin

ความเห็นผู้ชมทั่วไป