Airbnb ยื่นเปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชน ขณะที่การระบาดใหญ่ยังแพร่กระจ่ายต่อเนื่อง

(CNN Business) — Airbnb พร้อมที่จะเปิดตัวในตลาดสาธารณะแล้วในปีนี้ แม้ว่าการระบาดใหญ่ที่ได้ทำลายกิจการของทางบริษัทลงจะกลับมาลุกเป็นไฟอีกครั้ง

ทางบริษัทได้ยื่นเอกสาร IPO ที่มีการรอคอยมาอย่างยาวนานในวันจันทร์ ซึ่งได้เปิดเผยว่าบริษัททำกำไรได้ 219 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ด้วยรายรับ 1.34 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว บริษัททำกำไรได้ 227 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยรายรับ 1.65 พันล้านดอลลาร์ โดยไตรมาสที่ 3 เป็นไตรมาสเดียวที่บริษัททำกำไรได้ในปี 2019

ครึ่งปีแรกของปี 2020 นั้นย่ำแย่สำหรับ Airbnb ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มในการค้นหาและจองที่พักใน 220 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ทางบริษัทรายงานว่าตลอดจนวันที่ 30 มิถุนายน มีการขาดทุนสุทธิ 916 ล้านดอลลาร์จากรายรับ 1.18 พันล้านดอลลาร์

หนังสือชี้ชวนซื้อหุ้น IPO ของ Airbnb เกิดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสที่กำลังเลวร้ายลง โดยในสหรัฐอเมริกาจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ได้พุ่งทะลุ 11 ล้านรายแล้ว และศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคออกมาเตือนประชาชนว่าการอยู่บ้านเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไวรัส

“ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 เกิดการติดเชื้อโควิด-19ขึ้นอีกระลอกหนึ่ง” ทางบริษัทระบุในไฟล์เพื่อเป็นการเตือนว่าบริษัทคาดว่าจะมีการยกเลิกเพิ่มขึ้นและการจองที่พักจะลดลงไปในไตรมาสนี้กว่าไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

Airbnb มีแผนจะเข้าจดทะเบียนใน Nasdaq ภายใต้ชื่อ “ABNB”

ในเดือนกันยายน ปี 2019 Airbnb ได้ประกาศว่าจะเปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชนในปีนี้ และเกือบ 1 ปีต่อมา ในเดือนสิงหาคม ปี 2020 ทางบริษัทระบุว่าได้ส่งเอกสารลับให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯเพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ชัดเจนว่าบริษัทตั้งใจที่จะเดินหน้าด้ำนินการตามแผนที่จะเข้าสู่ตลาดสาธารณะแม้ว่าการระบาดใหญ่จะได้ทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวลงและได้ทำให้บริษัทต้องเลิกจ้างพนักงานไปถึงหนึ่งในสี่ก็ตาม

บริษัทถูกก่อตั้งในปี 2008 ในชื่อ Airbed & Breakfast by Brian Chesky, Joe Gebbia and Nathan Blecharczyk บริษัท Airbnb ได้พลิกอุตสาหกรรมการโรงแรมด้วยการนำเสนอแนวคิดที่คิดไม่ถึงของการปล่อยเช่าห้องพักในบ้านของคนแปลกหน้า นับแต่นั้นเป็นต้นมาทางบริษัทได้ขยายข้อเสนอในครอบคลุมทั้งอพาร์ตเมนต์ การเช่าบ้านทั้งหลัง และโรงแรมตลอดจนแพ็คเกจประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว Airbnb ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ได้มีมูลค่าถึง 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ เวลาหนึ่ง

ก่อนหน้านี้ Airbnb ได้ระบุว่าบริษัททำกำไรได้ โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายบางส่วน ในปี 2017 และปี 2018 ซึ่งจุดนี้ทำให้ Airbnb แตกต่างจากบริษัทยูนิคอร์น^[1] อื่น ๆ อีกมากมายที่ยังต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้ตามเกณฑ์^[2] นั้น

การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลกทำให้ธุรกิจของ Airbnb และเจ้าบ้านหลายรายต้องสั่นคลอน ในเดือนพฤษภาคม ไบรอัน เชสกี ซีี๊อีโอของบริษัทได้เขียนจดหมายถึงพนักงานว่า กิจการของบริษัท “ได้รับผลกระทบอย่างหนัก” และรายได้ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าที่บริษัทได้รับในปี 2019 เสียอีก

Airbnb ได้รายงานรายได้ 2.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2020 เมื่อเทียบกับ 3.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019 โดยบริษัทได้รายงานรายรับโดยรวมที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019

อย่างไรก็ตาม ในเดือนมิถุนายน นายเชสกีบอกกับ CNN ว่าเขายังคงเปิดกว้างอยู่สำหรับการเปิดตัวในวอลล์สตรีท

“เราไม่ได้ทิ้งแผนนี้ไปเสียทีเดียว แต่เราจะไม่ผูกมัดกับอะไรในตอนนี้อย่างแน่นอน” เชสกีกล่าวกับ ป็อปปี้ ฮาร์โลว์ จาก CNN “เราจะเปิดตัวเลือกของเราเอาไว้ก่อน”

กิจการของทางบริษัทได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่อย่างหนักที่สุดในเดือนมีนาคมและเมษายน ซึ่งในตอนนั้นมีการยกเลิกมากกว่าการจองห้องพัก แต่บริษัทก็ได้พบกับความคืบหน้าบ้างแล้วในเดือนที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งได้รับการผลักดันจากผู้ที่ใช้แพลตฟอร์มของบริษัทเพื่อการเดินทางในประเทศและการเดินทางระยะสั้น

“เราเชื่อว่าการระบาดของโรคโควิด-19เป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่าการท่องเที่ยวเป็นความปรารถนาของมนุษย์ที่จะไม่หายไปเองง่าย ๆ แม้ต้องเผชิญกับความท้าทาย ผู้คนต่างมองหาทางเลือกในการท่องเที่ยวที่ใกล้บ้านกันมากขึ้น” บริษัทระบุ

Airbnb เป็นหนึ่งในการเสนอขายต่อสาธารณะที่มีการรอคอยมากที่สุดในภาคเทคโนโลยีในปีนี้ ด้าน DoorDash บริษัทเศรษฐกิจแห่งการแบ่งปันอีกแห่งหนึ่ง ได้เผยแพร่หนังสือชี้ชวนเสนอขายหุ้น IPO ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตลาดการจัดส่งอาหารตามความต้องการ ต่างจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งบริษัท DoorDash เป็นผู้นำตลาดนี้ในสหรัฐฯ ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนต่างอยู่บ้านกันมากขึ้นในปีนี้เนื่องจากการระบาดของโคโรนาไวรัส

คณะกรรมการของ Airbnb ประกอบไปด้วยชื่อที่โด่งดังอย่างเช่นอดีตซีอีโอของ American Express เคนเน็ธ เชนอลท์ และแอนน์ แมเธอร์ อดีตผู้บริหาร Pixar แต่ในขณะเดียวกันเชสกีก็มีที่ปรึกษาผู้โด่งดังจำนวนหนึ่งที่เขาสามารถขอคำแนะนำได้ รวมถึง วอร์เรน บัฟเฟต์, บ็อบ ไอเกอร์ และบารัค โอบามา

เช่นเดียวกับบริษัทสตาร์ทอัพแบบเศรษฐกิจแบบแบ่งปันอื่น ๆ ที่กำลังเกิดใหม่ Airbnb ได้เผชิญกับการต่อสู้ด้านกฎระเบียบหลายครั้งกับทั้งรัฐบาลกลางและท้องถิ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในเรื่องของวิธีดำเนินกิจการในเขตอำนาจศาลของแต่ละท้องถิ่น และปัญหานี้ยังคงเป็นความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องต่อกิจการของบริษัท

ในการยื่นคำร้อง ทางบริษัทระบุว่า “บริษัทอยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับมากมายที่ซับซ้อน, มีการเปลี่ยนแปลง, และบางครั้งก็ไม่สอดคล้องกันเองและคลุมเครือ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการดำเนินกิจการของเราและเป็นอุปสรรคต่อเจ้าของที่พักและแขกในการใช้งานแพลตฟอร์มของเรา และนั่นอาจทำให้เราต้องรับภาระหนี้สินจำนวนมากรวมทั้งค่าปรับและโทษทางอาญามากมาย ซึ่งสามารถส่งผลเสียอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจการ, ผลการดำเนินงาน, และสถานะทางการเงินของเราได้”

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Airbnb ได้ต่อสู้กับการให้เช่าโรงเรือนและที่ดินในทางมิชอบในการจัดงานปาร์ตี้ในบ้าน ในเดือนสิงหาคม บริษัทได้ประกาศห้ามการจัดกิจกรรมและงานปาร์ตี้ทุกรูปแบบในรายชื่อโฮสต์ทั่วโลกของ Airbnb จำกัดจำนวนผู้เข้าพักสูงสุดที่ 16 คน ในช่วงที่เกิดการระบาด บางเมืองมีการสั่งห้ามการเช่าที่พักระยะสั้นเป็นการชั่วคราว และเจ้าของที่พักจึงถูกบังคับให้ต้องปล่อยเช้าเป็นระยะเวลา 30 วันหรือมากกว่า

อ้างอิง

 ^[1]Unicorn compay = ธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

 ^[2]มีมูลค่ารวมของบริษัทมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

CNN

By Sara Ashley O'Brien

CNN Business' Kaya Yurieff contributed reporting