หุ้นโตเป็นประวัติการณ์ขณะไบเดนเตรียมรับตำแหน่ง-วัคซีนทำให้แนวโน้มสดใสขึ้น

ตลาดหุ้นโลกเติบโตเป็นประวัติการณ์ในวันพุธหลัง Dow Jones ทะลุ 30,000


สารบัญข่าว

ตลาดหุ้นโลกเติบโตเป็นประวัติการณ์ในวันพุธหลัง Dow Jones ทะลุ 30,000

ลอนดอน/โตเกียว (รอยเตอร์) — ตลาดหุ้นโลกเติบโตเป็นประวัติการณ์ในวันพุธหลัง Dow Jones ทะลุ 30,000 ด้วยการที่นักลงทุนต่างโล่งใจที่การส่งมอบอำนาจมีแนวโน้มจะเป็นไปอย่างราบรื่นภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีความมั่นใจว่าวัคซีนโควิด-19จะพร้อมใช้งานในไม่ช้า

เมื่อวันอังคาร ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้เปิดตัวนโยบายต่างประเทศและทีมรักษาความมั่นคงแห่งชาติหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดทางให้แก่การเตรียมการบริหารของเขา

รายงานที่ว่านายไบเดนมีแผนที่จะเสนอชื่อ เจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาจทำให้หนทางในการดำเนินการสำหรับมาตรการกระตุ้นทางการคลังผ่อนคลายลงเพื่อรับมือกับความเสียหายจากโควิด-19 พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมตลาดด้วย

ความต้องการในการซื้อหุ้นที่เพิ่มขึ้นได้ผลักดันให้มาตรวัดหุ้นโลกที่กว้างที่สุดของ MSCI ไปสู่ระดับสูงสุดเป็นสถิติใหม่ที่ 622.12 โดยล่าสุดโตขึ้น 0.1%

หุ้นในยุโรป Euro STOXX 600 ตามหลังมาติด ๆ โดยขยับขึ้น 0.1% ในการซื้อขายช่วงต้น ซึ่งยังคงระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนอยู่ โดยมีหุ้นกลุ่มธนาคารที่ขยายตัวขึ้นและจากนั้นก็หดตัวลง

ในทวีปเอเชีย ดัชนีนิคเคอิของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 29 ปีในช่วงก่อนหน้านี้ ดัชนีหุ้นฝั่งเอเชียแปซิฟิกนอกชายฝั่งญี่ปุ่นหดตัวลง 0.2% เนื่องจากหุ้นจีนถูกจำกัดด้วยความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ที่กำลังเพิ่มขึ้น

ด้านดัชนี Dow Jones Industrial Average พุ่งทะลุ 30,000 เป็นครั้งแรกในวันอังคาร และดัชนีล่วงหน้าสำหรับ S&P 500 ขยับขึ้น 0.2%

“โลกกำลังจะดูดีขึ้นในช่วงเดียวกันนี้ของปีหน้ากว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้มาก และนั่นคือสิ่งที่ตลาดตราสารทุนกำลังสะท้อนให้เห็น” ไมค์ เบลล์ นักยุทธศาสตร์ตลาดโลกจาก J.P. Morgan Asset Management กล่าว “ข้อเท็จจริงก็คือทัศนคติได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในเดือนที่แล้ว”

การบรรเทาทุกข์

ท่ามกลางทัศนคติที่ดีขึ้น นักลงทุนต่างเดิมพันว่าวัคซีนป้องกันไวรัสที่กำลังจะมาถึงนี้จะช่วยบรรเทาความเสียหายของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการระบาดใหญ่นี้ได้ ตั้งแต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปจนถึงอุตสาหกรรมพลังงานเชื้อเพลิง

หุ้นภาคพลังงานเชื้อเพลิงได้ทะยานขึ้นเกือบ 34% ในเดือนนี้ อยู่บนหนทางไปสู่เดือนที่ดีที่สุดที่เคยมีบันทึกไว้เนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวสูงขึ้น

ราคาน้ำมันลอยตัวใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.3% ที่ 48.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในเดือนมีนาคม

การเคลื่อนไหวด้วยความเสี่ยงเช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นในตลาดตราสารหนี้เช่นกัน อัตราผลตอบแทนของหนี้ยูโรโซนพุ่งขึ้นมาจากระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ พันธบัตรเยอรมันล่าสุดให้ผลตอบแทนใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบสัปดาห์ โดยผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นเมื่อพันธบัตรราคาตก

การคลังสหรัฐฯได้รับแรงกดดันเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนต่างเดิมพันว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใด ๆ จากวอชิงตันจะสร้างหนี้เพิ่มขึ้น

สกุลเงินที่มีความเสี่ยงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปลอดภัย รวมไปถึงสกุลดอลลาร์สหรัฐฯด้วย เมื่อเทียบกับตะกร้าของ 6 สกุลเงิน ค่าเงินดอลลาร์ได้ลดลง 0.1% ที่ 92.048 หลังจากที่ได้ร่วงลงไป 0.4% เมื่อวันอังคาร

ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเคลื่อนที่สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยได้รับความช่วยเหลือจากนักลงทุนในการคลี่ลคายการเดิมพันเกี่ยวกับการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

เงินเยน ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยในยามที่เกิดความตึงเครียดทางการเมืองและเศรษฐกิจ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 104.38 เยนต่อดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอยู่ในช่วงเคลื่อนไหวพร้อมความเสี่ยง บิทคอยน์ได้คงตัวอยู่ที่ 19,179 ดอลลาร์ ยังอยู่ไม่ห่างจากสถิติสูงสุดที่ 19,666 ดอลลาร์ หลังจากที่พุ่งทะยานขึ้นเกือบ 40% ในเดือนพฤศจิกายน

อ้างอิง

รอยเตอร์

Reporting by Tom Wilson in London and Hideyuki Sano in Tokyo; editing by Sam Holmes, Larry King

ความเห็นผู้ชมทั่วไป