หลายประเทศได้วางแผนที่จะส่งมอบวัคซีนในต้นปีหน้า
สารบัญข่าว
- หลายประเทศได้วางแผนที่จะส่งมอบวัคซีนในต้นปีหน้า
- วัคซีน แฮ็ก
- วัคซีนไม่สามารถกู้คืนความเสียหายได้
- อ้างอิง
หลายประเทศได้วางแผนที่จะส่งมอบวัคซีนในต้นปีหน้า
ปารีส — โลกได้เคลื่อนผ่านหลักกิโลเมตรอันน่ากลัวของการเสียชีวิตจากโคโรนาไวรัสที่ 1.5 ล้านรายแล้วในวันพฤหัสบดี ในขณะที่หลากหลายประเทศได้วางแผนที่จะส่งมอบวัคซีนคาดหวังไว้อย่างมากในต้นปีหน้าเพื่อทำลายวงจรของการล็อคดาวน์และข้อจำกัดทั้งหลาย
แต่ถึงแม้จะมีการประกาศข่าวเชิงบวกล่าสุดเกี่ยวกับวัคซีน โดยวัคซีนต้นแบบของโมเดอร์นาแสดงให้เห็นว่ามันสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างน้อย 3 เดือน แต่หลายประเทศยังมียอดสถิติโควิด-19 ใหม่ ๆ อยู่
ประเทศอิตาลีมีผู้เสียชีวิตแล้ว 993 รายซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมที่ 969 รายเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่อิตาลีได้เป็นประเทศแรกในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด
อิหร่าน ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางที่รับผลกระทบหนักที่สุด มียอดติดเชื้อทะลุ 1 ล้านเคสแล้วแม้ว่าทางการจะพิจารณาผ่อนปรนข้อจำกัดหลาย ๆ ประการ ด้านประเทศอังกฤษได้บันทึกสถิติผู้เสียชีวิตกว่า 60,000 รายแล้ว
สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในโลก ทำสถิติผู้เสียชีวิตสูงสุดต่อวัน — 2,731 ราย — นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ขณะที่จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยไวรัสนี้ทะลุ 100,000 รายเป็นครั้งแรก
และนายโรเบิร์ต เรดฟีลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ได้ออกมาเตือนว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากยังอยู่ข้างหน้าในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์
“ผมเชื่อจริง ๆ ว่าเวลาดังกล่าวนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์สาธารณสุขของประเทศนี้” เขากล่าว พร้อมเตือนว่าอาจมีผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯมากถึง 450,000 รายภายในเดือนกุมภาพันธ์
วัคซีนแฮ็ก
การระบาดใหญ่ครั้งนี้กำลังแสดงสัญญาณเล็ก ๆ ของการชะลอตัวลง โดยมีสถิติยอดผู้เสียชีวิตรายใหม่กว่า 10,000 รายทั่วโลกทุก ๆ วันตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน — ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่เคยถึงมาก่อน จากการนับจำนวนของ AFP
เนื่องจากทั่วโลกกำลังเหนื่อยหน่ายกับข้อจำกัดทางเศรษฐกิจหลากหลายประการ ความสนใจจึงหันไปจับจ้องอยู่ที่การแข่งขันเพื่อคิดค้นวัคซีนแทน
เมื่อวันพุธประเทศสหราชอาณาจักรกลายเป็นประเทศแถบตะวันตกประเทศแรกที่ได้อนุมัติรับรองวัคซีนโควิด-19 สำหรับการใช้งานทั่วไป เป็นการสร้างแรงกดดันประเทศอื่น ๆ ให้ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว
ทว่า แอนโทนี่ เฟาชิ นักวิทยาศาสตร์ด้านโรคติดเชื้อชั้นนำของอเมริกากล่าวว่าสหราชอาณาจักร “เร่ง” กระบวนการอนุมัติไปหน่อย
“ในความเป็นธรรมต่อเพื่อนของผมหลายคนในสหราชอาณาจักร พวกเขาวิ่งลัดโค้งของมาราธอนนี้แล้วมาเข้าร่วมในระยะ 1 ไมล์สุดท้าย” เขากล่าวกับสำนักข่าว CBS
อีกประเด็นในวันพฤหัสดบี จากการศึกษาพบว่าวัคซีนของโมเดอร์นา (Moderna) ที่ซึ่งเพิ่งได้แสดงให้เห็นไปว่ามีประสิทธิถาพมากถึง 94% ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันสร้างแอนติบอดีที่มีศักยภาพที่สามารถอยู่ทนได้อย่างน้อยถึง 3 เดือน
ในการรอคอยการอนุมัติของวัคซีนดังกล่าว ประเทศฝรั่งเศสประกาศว่าการฉีดวัคซีนจะไม่มีค่าใช้จ่าย และจะเริ่มในเดือนมกราคมในผู้สูงอายุ 1 ล้านรายในบ้านพักคนชรา และต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง 14 ล้านคน และในช่วงฤดูใบไม้ผลิสำหรับประชากรที่เหลือ
ฝรั่งเศสยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์กับบุคคลสำคัญรายล่าสุดที่ได้เสียชีวิตจากโควิด-19 อดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศส วาเลรี จิสการ์ด เดสตัง ผู้ซึ่งเสียชีวิตด้วยอายุ 94 ปี
ด้านรัฐบาลของเบลเยียมยังได้กล่าวอีกด้วยว่ามีความตั้งใจที่จะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มที่เสี่ยงที่สุดในเดือนมกราคม
แต่ความหวังที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนในจากรัฐบาลเท่านั้น — ไอบีเอ็มกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าแฮกเกอร์หลายรายกำลังตั้งเป้าไปที่ห่วงโซ่อุปทานของวัคซีนโควิด-19
โดยไอบีเอ็ม ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกล่าวว่า ยัง “ไม่ชัดเจน” ว่าการโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้งที่บริษัทได้เปิดโปงต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการกระจายวัคซีนทั่วโลกนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่
ไอบีเอ็มไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว แต่ระบุว่าความแม่นยำของปฏิบัติการบ่งชี้ว่า “เป็นไปได้ว่าเป็นลักษณะของหน่วยงานแลกเปลี่ยนข่าวกรองระดับรัฐ-ประเทศ”
วัคซีนไม่สามารถกู้คืนความเสียหายได้
อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวเตือนว่าถึงแม้วัคซีนจะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็วแต่โลกยังคงต้องต่อสู้กับอาฟเตอร์ช็อคของการระบาดใหญ่นี้อยู่
“เราอย่าหลอกตัวเองกันเลย วัคซีนไม่สามารถกู้คืนความเสียหายที่จะยืดเยื้อออกไปอีกหลายปี หรือแม้แต่นับสิบ ๆ ปีที่กำลังจะมาถึง” นายกูเตร์เรสกล่าวขณะเปิดการประชุมสุดยอดพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับไวรัส
กูเตร์เรสได้ย้ำคำเรียกของเขาว่าวัคซีนนี้ถือเป็น “สินค้าสาธารณะระดับโลก” ที่แบ่งปันกันทั่วโลก
กว่า 180 ประเทศได้เข้าร่วม Covax ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มความร่วมมือระดับโลกโดยองค์การอนามัยโลกเพื่อทำงานร่วมกับผู้ผลิตต่าง ๆ เพื่อกระจายวัคซีนออกไปอย่างเท่าเทียม
อย่างไรก็ตาม แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสหนักที่สุดในทวีปนี้ ได้พลาดกำหนดชำระเงิน Covax ครั้งแรกไป สื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี
แม้ว่าจะมีวัคซีนที่สำเร็จแล้วก็ตาม แต่หลายประเทศก็กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป: นั่นก็คือ การโน้มน้าวชักชวนให้ประชากรที่กังขา[เกี่ยวกับการฉีดไวรัส]ว่าพวกเขาควรเข้ารับการฉีดวัคซีน
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา, จอร์จ ดับเบิลยู บุช และบิล คลินตัน ได้อาสาฉีดวัคซีนต่อหน้ากล้องหากจะเป็นการช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นของประชาชนได้
“จบลงด้วยการฉีดวัคซีนออกอากาศ หรือการบันทึกวิดีโอ เพียงเพื่อให้ผู้คนรู้ว่าผมเชื่อในวิทยาศาสตร์ และสิ่งที่ผมไม่ไว้ใจคือการได้รับเชื้อโควิด” โอบามากล่าวในการสัมภาษณ์ทางวิทยุ
ความเห็นผู้ชมทั่วไป