ผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรกสูญเสียมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท

การระบาดใหญ่ทำให้ความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรกของไทยสูญเสียถึง 1.41 แสนล้าน


สารบัญข่าว

การระบาดใหญ่ทำให้ความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรกของไทยสูญเสียถึง 1.41 แสนล้าน

วิกฤตการณ์การระบาดใหญ่ทำให้ความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้นที่ร่ำรวยที่สุด 10 อันดับแรกของไทยสูญเสียถึง 1.41 แสนล้านบาท โดยผู้บริหารระดับสูงของ Gulf Energy Development นายสารัชถ์ รัตนาวะดี รักษาตำแหน่งสูงสุดเป็นปีที่สองติดต่อกัน

การลดลงของความมั่งคั่งโดยรวมของ 10 อันดับแรกเป็นการลดลง 7.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามการสำรวจประจำปีครั้งที่ 27 ของนิตยสาร Money & Banking และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผลสำรวจใช้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดที่ 1,237.04 วันที่ 30 ก.ย. เป็นจุดอ้างอิงในการคำนวณความมั่งคั่ง

การปิดของดัชนี SET ในวันที่ 30 ก.ย. เป็นการลดลง 32.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีจาก 1,637.22 จุดที่บันทึกไว้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การดิ่งลงนี้เกิดจากการแพร่ระบาดที่ทำให้ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวดิ่งลงเหว

ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นได้ฟื้นตัวแล้ว โดยลอยตัวอยู่ที่ 1,480 จุดจากกระแสเงินไหลเข้าสุทธินอกชายฝั่งที่เคลื่อนเข้าสู่ตลาดทุนของไทยท่ามกลางความรู้สึกเสี่ยงที่เกิดจากการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

นายสารัชถ์ดำรงตำแหน่งในโพลล์ต่อไปเป็นปีที่สองแม้มูลค่าหุ้นทั้งหมดของเขาจะลดลง 4.69% เมื่อเทียบเป็นรายปี เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Gulf โดยมีส่วนแบ่ง 35.4% ทรัพย์สมบัติจากหุ้นของนายสาระมีมูลค่า 1.15 แสนล้านบาทลดลง 5.67 พันล้านจากปีที่แล้ว

Gulf เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีธุรกิจไฟฟ้า, ไอน้ำ, การผลิตน้ำเย็น และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่ในพอร์ตโฟลิโอ

แม้ว่าราคาหุ้นของบริษัทจะพุ่งสูงขึ้น 110% เป็น 160 บาทต่อหุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท) ในวันที่ 30 ก.ย. 2019 จากราคาหุ้น IPO 45 บาทในปี 2018 แต่หุ้น Gulf อยู่ในกลุ่มผู้เสียหายจากโรคระบาด โดยลดลงเหลือ 30.50 บาท (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท) ณ วันที่ 30 ก.ย. 2020 จึงเป็นการลดความมั่งคั่งของนายสารัชถ์ลงไปประมาณ 5.6 พันล้านบาท

ตามมาอันดับสองคือนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส, กรุงเทพดุสิตเวชการ และโรงพยาบาลนนทเวช

มูลค่าหุ้นรวมของนายแพทย์ปราเสริฐอยู่ที่ 50.1 พันล้านบาทในปีนี้ ลดลง 24.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนในตลท.ที่นายแพทย์ประเสริฐเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายการบินบางกอกแอร์เวย์สซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล

หุ้นของนายแพทย์ปราเสริฐที่กระจายอยู่ในภาคการแพทย์ได้สูญเสียผลกำไรอย่างมากจากการสูญเสียผู้ป่วยชาวต่างชาติ

นายนิติ โอสถานุเคราะห์ แห่งโอสถสภาครองอันดับ 3 ด้วยมูลค่าหุ้นรวม 4.82 หมื่นล้านบาท ลดลง 0.89% เมื่อเทียบรายปี

อ้างอิง

บางกอกโพสต์

ความเห็นผู้ชมทั่วไป